เทศกาล Wonderfruit 2025 ไม่ได้เป็นเพียงงานเทศกาลดนตรีและศิลปะ แต่เป็นการเฉลิมฉลองครั้งสำคัญครบรอบ 10 ปี ของการรวมตัวกัน ณ “The Fields” ที่สยามคันทรีคลับ จังหวัดชลบุรี (วันที่ 11–15 ธันวาคม 2568) ที่แห่งนี้ได้กลายเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนจากทั่วโลกมาค้นพบความหมายของชีวิต, ธรรมชาติ, ศิลปะ, และเสียงดนตรี ที่เชื่อมโยงเข้าหากันอย่างลงตัว สำหรับปีนี้ Wonderfruit ได้ยกระดับประสบการณ์ไปอีกขั้น พิสูจน์ให้เห็นว่าการเดินทางตลอดหนึ่งทศวรรษนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความสนุก แต่ยังเต็มไปด้วยความลึกซึ้งและจิตสำนึกต่อโลกใบนี้

ปี 2025 นี้ ไลน์อัพดนตรีมีความหลากหลายและน่าสนใจกว่าที่เคย โดยเฉพาะการเน้นที่ “Soundscapes by Sonic Minds” ที่ถูกซ่อนไว้ตามจุดต่าง ๆ ในงาน เป็นการทดลองทางเสียงที่กระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมงานได้ใช้ประสาทสัมผัสในการรับรู้มากขึ้น

 – เวทีหลัก (The Fields Stage/Living Village): ยังคงเป็นหัวใจของงาน แต่ในปีนี้ได้ขยายใหญ่ขึ้นและเปิดรับดนตรีหลากหลายแนว ตั้งแต่ Electronic Dance Music ไปจนถึงดนตรีพื้นบ้านอย่าง Molam จากวง Paradise Bangkok Molam International Band ที่ผสมผสานความเป็นสากลได้อย่างลงตัว
– เวทีใหม่: มีการเปิดตัวพาวิลเลียนใหม่ ๆ เช่น Baan Bardo และ Haan Molam ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนองานสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืนและศิลปะเชิงวัฒนธรรม
– The Quarry & Forbidden Fruit: ยังคงเป็นสถานที่ปลดปล่อยพลังยามค่ำคืนด้วยดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และเฮาส์ระดับโลก ที่จัดเต็มทั้งแสง สี และดีไซน์เวทีที่ล้ำยุค

สิ่งที่ทำให้ Wonderfruit แตกต่างคือการให้ความสำคัญกับงานศิลปะที่สามารถโต้ตอบกับผู้คนและสิ่งแวดล้อมได้ ในปีนี้ภายใต้ธีม “Decade of Wonder” งานศิลปะและสถาปัตยกรรมหลายชิ้นถูกออกแบบมาเพื่อสะท้อนถึงการเติบโตและความยั่งยืน

– งาน Installation Art: ศิลปินหลายคนได้นำวัสดุรีไซเคิลและวัสดุจากธรรมชาติมาสร้างสรรค์งานขนาดใหญ่ ที่ไม่ได้เป็นเพียงฉากถ่ายรูป แต่เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ทั้งหมด เช่น The Bridge To Wonderness ที่มอบมุมมองใหม่ ๆ ให้กับ The Fields
– นิทรรศการ: มีโซนที่เน้นการนำเสนอ “Expressions” หรือการแสดงออกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ผ่านงานศิลปะที่มีชีวิตจริง

Wonderfruit 2025 ตอกย้ำถึงความเป็นเทศกาลที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังมากขึ้น:

Zero Single-Use Plastic: งานยังคงเคร่งครัดเรื่องการงดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง พร้อมส่งเสริมการรีไซเคิลอย่างจริงจัง
Farm-to-Table & Dining Experiences: ประสบการณ์ด้านอาหารไม่ได้เป็นแค่การรับประทาน แต่เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้เรื่องแหล่งที่มาและความยั่งยืน ร้านอาหารและบาร์ใหม่ ๆ ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อตอบโจทย์ผู้เข้าร่วมงานที่หลากหลาย

Wellness & Workshops: โซนกิจกรรมเพื่อสุขภาพและการเรียนรู้ (เช่น โยคะ, การทำสมาธิ, Ecstatic Dance) ได้รับการขยายพื้นที่และโปรแกรมให้ลึกซึ้งขึ้น เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้เชื่อมโยงกับ “Mind, Nature, และ Sound” อย่างแท้จริง

Wonderfruit 2025 ประสบความสำเร็จในการเฉลิมฉลองทศวรรษแรกด้วยการนำเสนอความแปลกใหม่ที่ยังคงรักษาจิตวิญญาณดั้งเดิมไว้ได้อย่างเข้มแข็ง ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเทศกาลหน้าใหม่ที่ได้สัมผัสความ “วันเดอร์” ครั้งแรก หรือ “วันเดอเรอร์” รุ่นเก่าที่กลับมาอีกครั้ง ก็ต่างได้รับประสบการณ์ที่ครบถ้วนทั้งดนตรี ศิลปะ อาหาร และการตระหนักรู้ด้านความยั่งยืน เป็นเทศกาลที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างสรรค์ความสุขและความหมายไปพร้อม ๆ กันได้อย่างแท้จริง