“พิมาลัย รีสอร์ท แอนด์ สปา” (Pimalai Resort & Spa) แบรนด์รีสอร์ตระดับ 5 ดาวสัญชาติไทยแท้ เผยความสำเร็จตามแผนฟื้นตัวหลังโควิด โชว์ยอดจองล้นรับไฮซีซัน 2565 พร้อมกางแผนลุยต่อปี 2566 แบบเต็มกำลัง วางแผนดึงอีเวนต์ระดับโลกจัดบนเกาะลันตาดึงนักท่องเที่ยวนานาชาติ รวมถึงเน้นการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ หนุนเกาะให้เติบโตอย่างยั่งยืน
คุณชรินทิพย์ ตียาภรณ์ ทายาทรุ่นที่ 2 และเจ้าของร่วม พิมาลัย รีสอร์ท แอนด์ สปา เปิดเผยว่า การดำเนินงานในปีนี้ของพิมาลัยเป็นไปในทิศทางที่ดี รีสอร์ตมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดประเทศ และมีนักท่องเที่ยวเดินทางกลับเข้ามาเที่ยวในไทยมากขึ้น โดยตลอดทั้งปี 2565 มีอัตราการเข้าพัก (occupancy) เฉลี่ย 44% RevPar 5,400 บาท และในไตรมาส 4 นี้ Occupancy 70% สูงกว่าก่อนโควิด (2562) มีทั้งแขกชาวต่างชาติที่เคยมาพิมาลัยแล้วกลับมาซ้ำ ซึ่ง 10 เดือนผ่านมา เป็นลูกค้าชาวไทยอันดับ 1 เยอรมัน อังกฤษ ตามมาด้วย ออสเตรเลีย อเมริกา และสิงคโปร์ รวมถึงลูกค้าชาวไทยที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น เนื่องจากการทำการตลาดทั้งเน้นกลุ่มคนไทยมากขึ้นในช่วงโควิดส่วนกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นมาหลังจากการระบาด เป็นกลุ่มลูกค้าจากอิสราเอล
คุณชรินทิพย์ ตียาภรณ์ กล่าวว่า “ปัจจัยที่ทำให้พิมาลัยฟื้นตัวเร็ว เนื่องมาจากพเรามีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลาแม้ในช่วงวิกฤติ ไม่ว่าจะเป็นการรีโนเวทครั้งใหญ่ในช่วงโควิด การปรับปรุงพื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงการพัฒนาศักยภาพของพนักงานทั้งในด้านภาษา การบริการ และฝึกอบรมให้ความรู้ด้านต่าง ๆ เมื่อประเทศกลับมาเปิดอีกครั้ง จึงทำให้พิมาลัยมีความพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้ทันที นอกจากนั้น ในช่วงปีที่ผ่านมายังได้ปรับใช้ประโยชน์และทำการตลาดต่อยอดนโยบายภาครัฐอีกด้วย”
ทั้งนี้ พฤติกรรมและเทรนด์การท่องเที่ยวของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ยังเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลให้อัตราการเข้าพักของพิมาลัยปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเอกลักษณ์และจุดขายของรีสอร์ต ที่เป็นรีสอร์ตท่ามกลางธรรมชาติ เงียบ สงบ เป็นส่วนตัว และบริการระดับลักชัวรี่ มีกิจกรรมหลากหลายทั้งในรีสอร์ตและพื้นที่อุทยานใกล้เคียง สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มครอบครัว คู่รัก ไปจนถึงกลุ่มเพื่อน ที่มองหาสถานที่พักผ่อนและท่องเที่ยวที่เอ็กซ์คลูซีฟ เป็นไพรเวท และแตกต่างมากกว่าที่เคย
สำหรับปี 2565 พิมาลัยยังคงลุยตลาดอย่างเต็มกำลังทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีแผนการพัฒนาบริการต่าง ๆ ด้วยเงินลงทุนกว่าสิบล้านบาท เพื่อให้ตอบโจทย์พฤติกรรมนักเดินทางยุคใหม่ในหลากหลายมิติ โดยจะเน้นที่การสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าอันน่าจดจำให้กับลูกค้า ผ่านการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก การบริการ และการสร้างสรรค์กิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ กิจกรรมผจญภัยดำน้ำลึกหรือฟรีไดร์ฟ เที่ยวเกาะที่สวยติดอันดับโลก หรือเดินป่าสำรวจธรรมชาติ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดขายของพิมาลัยและเกาะลันตา
ในขณะที่การบริการต่าง ๆ ภายในรีสอร์ตก็จะถูกยกระดับขึ้นเทียบเท่าสากลมากยิ่งขึ้น อาทิ การร่วมมือกับเชฟระดับรางวัลนานาชาติเพื่อรังสรรค์ประสบการณ์รับประทานอาหารให้แก่นักชิม หรือการนำจุดขาย “สปา” ที่มีขนาดใหญ่และครบวงจร เพื่อดึงดูดคนรักสุขภาพให้มาพักผ่อนพร้อมการผ่อนคลายไปในตัว รวมถึงการรีโนเวท Beach Villa จำนวน 7 หลัง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งห้องพักไฮไลท์ของรีสอร์ตให้ และปรับปรุงห้องอาหาร Seven Seas ซึ่งเป็นห้องอาหารหลักของรีสอร์ตให้กลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของเกาะลันตาอีกด้วย
นอกจากนั้น พิมาลัยยังได้ร่วมบูรณาการการท่องเที่ยวของเกาะลันตาร่วมมือกับทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยพิมาลัยได้มีส่วนสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชน โดยนำร่องส่งเสริมหมู่บ้าน “ทุ่งหยีเป็ง” ให้เป็นชุมชนตัวอย่างในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมและท่องเที่ยวยั่งยืน ทั้งนี้ ทุ่งหยีเป็งมีชื่อเสียงด้านทัวร์ล่องเรือแจว หรือ กอนโดล่าลันตา ชมป่าโกงกางที่สวยงามอย่างมาก
ในขณะที่เสน่ห์ของวิถีชีวิตเกาะลันตาก็ยังคงดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของเกาะที่ยังคงโดดเด่นในเวทีโลก
ทั้งนี้ พิมาลัยได้ตั้งเป้าปี 2566 สำหรับอัตราการเข้าพักไว้ที่ 64% ตลอดทั้งปี และ RevPar (รายได้ต่อห้องว่าง) อยู่ที่ 2,400 บาท และตั้งเป้า GOP (ผลกำไรจากการดำเนินงาน) ให้ได้เท่ากับปี 2019
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พิมาลัย รีสอร์ท แอนด์ สปา ได้บนเว็บไซต์ https://pimalai.com/