A5 ประกาศงบครึ่งแรกปี 66 นิวไฮ รายได้รวม 668.28 ล้านบาท กำไรสุทธิ 169.47 ล้านบาท โต 106% กำลังซื้อระดับบนคึกคัก หนุนยอดขายรายได้เข้าต่อเนื่อง แย้มครึ่งปีหลังโตไม่หยุด โชว์แบ็คล็อกรอรับรู้กว่า 2,370 ล้านบาท ระบุช่วงที่เหลือของปีนี้ถึงปีหน้า เตรียมเปิดอีก 3 – 4 โครงการใหม่ มูลค่าระดับ 8.4 พันล้านบาท มั่นใจรายได้เข้าเป้าโตกว่า 2 เท่าจากปีก่อน แตะ 1.6 พันล้านบาท
นาย ศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 เปิดเผยว่า ผลประกอบการครึ่งแรกปี 66 เติบโตทำสถิติใหม่ โดยมีรายได้รวม 668.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้ 551.38 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21% และมีกำไรสุทธิ 169.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 82.30 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 106%
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 2/2566 บริษัทมีรายได้รวม 329.76 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้ 229.34 ล้านบาท โต 44% และมีกำไรสุทธิ 82.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 30.25 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 173% เนื่องจากกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าระดับบนปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดขายและยอดรับรู้รายได้ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการ “CINQ ROYAL Krungthep Kreetha”
อีกทั้งมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก โครงการ Tonson One Residence (ต้นสน วัน เรสซิเดนซ์) คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี สูง 29 ชั้น ห้องพักอาศัยเพียง 80 ยูนิต บนทำเลที่ดีที่สุดใจกลางกรุงเทพมหานคร ในซอยต้นสน ย่านเพลินจิต และชิดลม ซึ่งปัจจุบันมียอดจองซื้อแล้วกว่า 90% โดยจะทยอยรับรู้ช่วงที่เหลือของปีนี้
“ผลงานที่ดีจนทำนิวไฮมาจาก 2 ส่วน คือ รายได้จากการขาย และ การบริหารต้นทุน โดยหลักๆ มาจากค่าที่ดิน และค่าก่อสร้าง ที่ผ่านมาเราได้ที่ดินมาในราคาต่ำกว่าตลาด ส่วนในเรื่องของต้นทุนการก่อสร้าง เรามีพันธมิตรที่ทำงานร่วมกันมานาน และเป็นผู้รับเหมาที่มีคุณภาพดี แม้เราจะใช้วัสดุมีคุณภาพดีอย่างเต็มที่ แต่ก็มีการปรับราคาให้สอดคล้อง ทำให้ไม่เสียมาร์จิ้นและคุณภาพ รวมถึงความพึงพอใจของลูกค้า” นายศุภโชค กล่าว
นอกจากนี้คาดว่าทิศทางผลประกอบการครึ่งปีหลังจะเติบโตดีต่อเนื่อง เนื่องจากจะมีการรับรู้รายได้จากยอดโอน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน ณ วันที่ 30 มิถุนายน จำนวน 2,370 ล้านบาท โดยจะรับรู้ปีนี้ประมาณ 940 ล้านบาท ที่เหลือจะทยอยรับรู้ถึงปี 2567 ประกอบด้วยโครงการ “แซงค์ รอยัล กรุงเทพกรีฑา”, “บ้านรชยา ประชาสันติ จังหวัดอุดรธานี” และ “บ้านรชยา เอกมันตรา จังหวัดอุดรธานี” รวมถึงการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของ “ต้นสน วัน เรสซิเดนซ์”
ส่วนแผนพัฒนาโครงการใหม่ จะยังเน้นประเภทแนวราบเป็นหลัก ซึ่งในอีก 1 – 2 ปีจากนี้ เบื้องต้นมีโครงการที่จะเปิดใหม่ในช่วงที่เหลือของปี 66 – 67 แล้ว ประมาณ 3-4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 8,400 ล้านบาท ซึ่งยังคงจับตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ต่อไป เช่น บ้านเดี่ยวโครงการใหม่ใจกลางราชพฤกษ์ ในชื่อ “วนา ราชพฤกษ์ – เวสต์วิลล์” คาดเปิดตัวปลายปีนี้ ต่อยอดความสำเร็จของการพัฒนาโครงการ “วนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9-ศรีนครินทร์” บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ระดับซูเปอร์ลักชัวรีที่ปิดโครงการไปในปีที่ผ่านมา ปัจจุบันที่ดินดังกล่าวอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการแล้ว
ด้านความคืบหน้าโครงการ “แซงค์ รอยัล” โครงการที่ 2 มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท ปัจจุบันที่ดินอยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมพัฒนาแล้วเช่นเดียวกัน พร้อมต่อยอดความสำเร็จของโครงการ “แซงค์ รอยัล” โครงการแรก ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
นายศุภโชค กล่าวต่อไปว่า นอกจากการพัฒนาโครงการคุณภาพรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่องแล้ว ในปีนี้บริษัทมีแผนปรับปรุงภาพลักษณ์แบรนด์ ให้มีความทันสมัยแฝงด้วยความอบอุ่น สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและแนวคิดการพัฒนาโครงการต่อจากนี้ของ A5 เพื่อให้กลุ่มลูกค้าได้เห็นถึงพัฒนาการของบริษัทซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นที่มีต่อโครงการต่างๆของบริษัทโดยตรง
ขณะที่เป้าหมายรายได้ปีนี้ยังคงเป้าไว้ที่ 1,600 ล้านบาท เติบโตกว่า 2 เท่าตัว จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 664.43 ล้านบาท โดยจะมาจากการรับรู้รายได้จาก 4 โครงการที่อยู่ระหว่างการขาย