สถานการณ์ในช่วงครึ่งแรก ปี 2567 โดยภาพรวมมีที่อยู่อาศัยพร้อมขายสะสมจำนวนทั้งสิ้น 16,882 หน่วย จำนวนหน่วยลดลงร้อยละ -0.6 มีมูลค่า 68,056 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) รายงานสถานการณ์ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัย ที่ยังอยู่ระหว่างขายในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ของจังหวัดภาคเหนือ 5 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก นครสวรรค์ และลำพูน โดยภาพรวมพบว่ามีที่อยู่อาศัยพร้อมขายจำนวนหน่วยลดลงร้อยละ -0.6 แต่มูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 จำนวนหน่วยขายได้ใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 ส่งผลให้จำนวนที่อยู่อาศัยเหลือขายในพื้นที่มีสัดส่วนลดลงร้อยละ -2.1 คาดการณ์ภาพรวมตลอดปี 2567 จะมีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวนประมาณ 3,148 หน่วย มีที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่จำนวน 3,522 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.9 และหน่วยเหลือขายจะลดลงร้อยละ -3.3 ทั้งหมดนี้เป็นแรงผลักจากการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยจังหวัดเชียงใหม่เป็นหลัก
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า จากการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยภาคเหนือ 5 จังหวัด ซึ่ง REIC ดำเนินการต่อเนื่องจากปี 2557 – ปัจจุบัน พบว่าสถานการณ์ในช่วงครึ่งแรก ปี 2567 โดยภาพรวมมีที่อยู่อาศัยพร้อมขายสะสมจำนวนทั้งสิ้น 16,882 หน่วย จำนวนหน่วยลดลงร้อยละ -0.6 มีมูลค่า 68,056 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 โดยแบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 14,436 หน่วย ลดลงร้อยละ -7.2 มูลค่า 60,540 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -4.8 และโครงการอาคารชุดจำนวน 2,446 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 72.1 มูลค่า 7,516 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 78.1
จำนวนดังกล่าวร้อยละ 62.2 เป็นที่อยู่อาศัยเสนอขายในจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีจำนวน 10,507 หน่วย มูลค่ารวม 45,556 ล้านบาท ร้อยละ 16.3 อยู่ในจังหวัดเชียงราย จำนวน 2,758 หน่วย มูลค่า 10,872 ล้านบาท ร้อยละ 14.0 อยู่ในจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 2,362 หน่วย มูลค่า 7,700 ล้านบาท ร้อยละ 5.5 อยู่ในจังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 933 หน่วยมูลค่า 3,014 ล้านบาท และร้อยละ 1.9 อยู่ในจังหวัดลำพูนจำนวน 322 หน่วยมูลค่า 915 ล้านบาท
โครงการที่เปิดขายใหม่ ใน 5 จังหวัดภาคเหนือ ช่วงครึ่งแรกปี 2567 มีจำนวน 1,472 หน่วย ลดลงร้อยละ -11.0 มูลค่า 6,255 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -1.9 ประกอบด้วยโครงการบ้านจัดสรรจำนวน 701 หน่วยลดลงร้อยละ -57.6 มูลค่า 3,702 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -42.0 โครงการอาคารชุดจำนวน 771 หน่วย มูลค่า 2,554 ล้านบาท ซึ่งเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าไม่มีโครงการอาคารชุดเปิดขายใหม่เลยแม้แต่โครงการเดียว
สำหรับยอดที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ในภาพรวม 5 จังหวัดภาคเหนือ ช่วงครึ่งแรกปี 2567 พบว่ามีจำนวน 1,921 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 มูลค่า 7,319 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร จำนวน 1,299 หน่วย ลดลงร้อยละ -16.0 มูลค่า 5,620 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -12.0 และ โครงการอาคารชุดจำนวน 622 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 288.8 มูลค่า 1,699 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 293.0
ทั้งนี้หากพิจารณารายละเอียดตามประเภทที่อยู่อาศัยจะพบว่า อัตราดูดซับต่อเดือนทุกประเภท ทุกระดับราคา ปรับขึ้นจากร้อยละ 1.4 ในครึ่งหลังปี 2566 มาอยู่ที่ร้อยละ 1.9 ในครึ่งแรกปี 2567 แต่ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ปี 2563- ปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 2.0 โดยอัตราดูดซับต่อเดือนประเภทโครงการบ้านจัดสรร มีการปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยโดยเพิ่มจาก ร้อยละ 1.4 ในครึ่งหลังปี 2566 เป็นร้อยละ 1.5 ในครึ่งแรกปี 2567 แต่ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ระหว่างปี 2563 ถึงปัจจุบันซึ่งอยู่ในช่วงร้อยละ 1.8 ขณะที่อัตราดูดซับโครงการอาคารชุดมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยปรับเพิ่มจากร้อยละ 1.8 ในครึ่งหลังปี 2566 เป็นร้อยละ 4.2 ในครึ่งแรกปี 2567 โดยสูงกว่าอัตราเฉลี่ยในช่วงปี 2563 ถึงปัจจุบันโดยมีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 3.6
จากการที่ภาคเหนือที่ยอดขายได้ใหม่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ได้ทำให้ที่อยู่อาศัยเหลือขายใน 5 จังหวัดภาคเหนือมีจำนวนทั้งสิ้น 14,961 หน่วย ลดลงร้อยละ -2.1 มูลค่า 60,737 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -0.4 แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรรจำนวน 13,137 หน่วย ลดลงร้อยละ -6.3 มูลค่า 54,920 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -3.9 ขณะที่โครงการอาคารชุดจำนวน 1,824 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 44.6 มูลค่า 5,817 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 53.5
จำนวนดังกล่าวร้อยละ 62.3 เป็นที่อยู่อาศัยเหลือขายในจังหวัดเชียงใหม่จำนวน 9,316 หน่วย มูลค่ารวม 40,476 ล้านบาท ร้อยละ 17.8 อยู่ในจังหวัดเชียงรายจำนวน 2,656 หน่วย มูลค่า 10,499 ล้านบาท ร้อยละ 15.0 อยู่ในจังหวัดพิษณุโลกจำนวน 2,243 หน่วยมูลค่า 7,311 ล้านบาท ร้อยละ 3.3 อยู่ในจังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 496 หน่วย มูลค่า 1,786 ล้านบาท และร้อยละ 1.7 อยู่ในจังหวัดลำพูน จำนวน 250 หน่วย มูลค่า 665 ล้านบาท
“เมื่อพิจารณาความเคลื่อนไหวด้านการขายเฉพาะในช่วงครึ่งแรกปี 2567 พบว่า 5 จังหวัดภาคเหนือภาพรวมปรับตัวดีขึ้น โดยมียอดขายได้ใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 เป็นการเพิ่มขึ้นของโครงการอาคารชุดร้อยละ 288.8 เพิ่มขึ้น ในขณะที่กลุ่มบ้านแนวราบ มีการขยายตัวของยอดขายใหม่ในประเภทบ้านแฝดร้อยละ 37.0 ในขณะที่อาคารพาณิชย์มีความเคลื่อนไหวด้านการขายลดลงถึงร้อยละ -77.4 บ้านเดี่ยว ยอดขายใหม่ลดลงร้อยละ -21.5 และทาวน์เฮ้าส์ ลดลงร้อยละ -15.3 แต่เมื่อพิจารณาในรายจังหวัดจะพบว่า เชียงใหม่มีการฟื้นตัวในทิศทางที่ชัดเจนที่สุด โดยภาพรวมมียอดขายใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 47.4 หรือขายได้ใหม่จำนวน 1,191 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 5,080 ล้านบาท โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของโครงการบ้านจัดสรรและโครงการอาคารชุดในสัดส่วนใกล้เคียงกันคือร้อยละ 47.3 และร้อยละ 47.7 ตามลำดับ และเห็นการฟื้นตัวในกลุ่มของบ้านแฝด ที่มีการฟื้นตัวด้านการขายสูงถึงร้อยละ 95.5 บ้านเดี่ยว ยอดขายได้ใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 46.4 และทาวน์เฮ้าส์เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.5 คงมีเพียงอาคารพาณิชย์เท่านั้นที่มียอดขายใหม่ลดต่ำลงถึงร้อยละ -87.1 ขณะที่ภาพรวมยอดขายได้ใหม่ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายมีทิศทางปรับลดลงทุกประเภทที่อยู่อาศัยและลดลงในสัดส่วนที่สูงมากโดยเฉพาะทาวน์เฮ้าส์และบ้านแฝด”…