อินทรี บี.กริม โซล่าร์ บริษัทร่วมทุนระหว่าง กลุ่มบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง และ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ เดินหน้าก่อสร้างแผงโซล่าร์เฟสแรก เพื่อผลิตพลังงานสะอาด ณ โรงงานปูนซีเมนต์นครหลวง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากถึง 54,000 ตันต่อปี
นายรานจัน ซาซเดอวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวงมีความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และใช้พลังงานไฟฟ้าที่ได้มาจากแหล่งพลังงานไฟฟ้าทางเลือกให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 50 ตลอดจนมีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างความยั่งยืนในการอยู่ร่วมกันกับชุมชน สังคมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตามแนวทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ภายใต้แนวคิด “ห่วงใย..ใส่ใจอนาคตและเป็นไปตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของกลุ่มบริษัทฯ ปี พ.ศ. 2573 (INSEE Sustainability Ambition 2030)”
บริษัท อินทรี บี.กริม โซล่าร์ จำกัด ได้จัดตั้งขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่าง บริษัท สยามซิตี้ พาวเวอร์ จำกัด บริษัทย่อย
ของกลุ่มบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง ถือหุ้นร้อยละ 75 และ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ ฟิวเจอร์ โซลูชั่น จำกัด บริษัทย่อย
ของ บี.กริม เพาเวอร์ ถือหุ้นร้อยละ 25 เพื่อพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาและภาคพื้นดิน ภายในพื้นที่โรงงานปูนซีเมนต์นครหลวง จังหวัดสระบุรี ด้วยเงินลงทุนประมาณ 1,900 ล้านบาท
คณะผู้บริหาร ปูนซีเมนต์นครหลวง และ บี.กริม เพาเวอร์ ได้ร่วมพิธีฤกษ์เปิดหน้าดินเพื่อเป็นการเริ่มการก่อสร้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2568 และจะเริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในการผลิตปูนซีเมนต์ของโรงงานปูนซีเมนต์นครหลวง ได้ในเดือนกันยายน 2568 เป็นต้นไป
“โดยกลุ่มบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง สายงานธุรกิจปูนซีเมนต์ในประเทศไทย ตั้งเป้าใช้พลังงานสีเขียวหมุนเวียนให้ได้ร้อยละ 50 ภายในปี 2573 ซึ่งที่ผ่านมา ปูนซีเมนต์นครหลวงมีการผลิตไฟฟ้าจากความร้อนเหลือใช้ (waste heat recovery system) ในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์กลับมาใช้ใหม่ และได้ติดตั้งหลังคาโซลาร์ขนาด 4 เมกะวัตต์ ทำให้ปัจจุบันสามารถนำพลังงานหมุนเวียนกลับมาใช้ร้อยละ 26 โดยคาดว่าเมื่อโครงการผลิตพลังงานสะอาดนี้เริ่มดำเนินการจะทำให้บริษัทฯ สามารถใช้พลังงานสีเขียวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 36 ในปี 2568 ตามนโยบายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของกลุ่มบริษัทฯ” นายรานจันกล่าวเพิ่มเติม
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือในการจัดตั้งบริษัท อินทรี บี.กริม โซล่าร์ นี้ จะเริ่มดำเนินการในเฟสแรกของโครงการ โดยมีกำลังการผลิตสูงสุด 83.79 เมกะวัตต์ ทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้ปีละ 117GWh ต่อปี โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 3 ปี 2568 ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 54,000 ตันต่อปี ส่วนของแผนงานในเฟสที่ 2 จะเพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มอีก 22 เมกะวัตต์
“บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ ผนึกความร่วมมือกับกลุ่มบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง ร่วมกันพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์
บนหลังคาและโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนพื้นดินในครั้งนี้ นับเป็นการรวมพลังครั้งสำคัญของ 2 องค์กรธุรกิจชั้นนำ
สู่การขับเคลื่อนธุรกิจ และประเทศด้วยพลังงานสมัยใหม่ รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน
และตอบโจทย์กลยุทธ์ Green Leap – Global and Green ในการเป็นองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์หรือ Net-Zero Carbon Emissions ภายในปี 2593” ดร.ฮาราลด์ กล่าวสรุป
ด้วยความร่วมมือของสองบริษัทด้านพลังงานทดแทน มุ่งมั่นส่งมอบพลังงานสะอาดเพื่อนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตปูนซีเมนต์ให้กับกลุ่มบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง ลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สนับสนุนเป้าหมายความยั่งยืนของกลุ่มบริษัทฯ ทั้งสององค์กรต่อไป