![](https://baanrem.com/wp-content/uploads/2022/01/NTtZHNkNaC0rDSkeY8T3-900x600.webp)
บริษัท รัตนากร แอสเซท จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์สัญชาติไทย เจ้าของโครงการในประเทศมากกว่า 37 กลุ่มธุรกิจ มูลค่ากว่า 33,000 ล้านบาท ในพัทยา ชลบุรี ระยอง ตลอดจนหัวเมืองในภูมิภาคต่าง ๆ รวมถึงทางภาคใต้ของประเทศไทย บริษัทดำเนินธุรกิจอย่างหลายหลาก ได้แก่ ธุรกิจบ้านจัดสรร 113 โครงการ อาคารพาณิชย์ คอมมูนิตี้มอลล์ พื้นที่ร้านค้าปลีกเกินกว่า 5,000 ยูนิตในตลาดค้าส่ง-ค้าปลีก ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีโครงการอาคารพาณิชย์ ที่พักอาศัย พื้นที่ให้เช่า กว่า 300 แห่ง และโครงการระดับ World Class ได้แก่ Citadines Apart Hotels ภายใต้แบรนด์ Ascott Limited โรงแรมภายใต้แบรนด์ IHG(R) จำนวน 8 โครงการ และแบรนด์อื่น ๆ อาทิ ONYX Hospitality Group และYoo Worldwide
ผนึก บางจาก ผุดโปรเจกต์ “สมาร์ทซิตี้” พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ของ รัตนากร แอสเซท บนพื้นที่ขนาด 400 ไร่ อยู่ติดถนนสุขุมวิท ตรงข้ามโรงแรมแอม บาส เดอร์ นาจอมเทียน มีมอเตอร์เวย์ตัดผ่านกลางที่ดินฝั่งละ 200 ไร่ ใกล้สนามบินอู่ตะเภา ใกล้รถไฟฟ้าความเร็วสูงและโปรเจกต์มิกซ์ยูสของซีพี
![](https://baanrem.com/wp-content/uploads/2022/01/Smart-City-Technology-900x468.jpeg)
โครงการดังกล่าวเป็นการผสมกันระหว่างที่อยู่อาศัย โรงแรม รีสอร์ท เวลเนส เฮลธ์แคร์ เรียกว่า ทุกอย่างที่อยู่ในพอร์ตของรัตนากร แอสเซท เพื่อเกิดอีโคซิสเต็มของเมือง งบลงทุนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ (Feasibility) คาดว่าใช้เวลา 1-2 ปี เริ่มก่อสร้าง พัฒนาต่อเนื่อง 5-6 ปี ซึ่งระหว่างนั้นอาจมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดตามดีมานด์ของตลาดที่เปลี่ยนไป เมื่อถึงเวลานั้นเชื่อว่าเศรษฐกิจ และภาคท่องเที่ยวฟื้นตัวเต็มที่
“ถือเป็นหนึ่งในเมกะโปรเจคของรัตนากร แอสเซท แต่ไม่ใช่โปรเจคเดียว เพราะยังมีที่ดินอีกกว่า 1,000 ไร่ ที่ยังสามารถพัฒนาต่อยอดได้อีกในอนาคต เพื่อสร้างการเติบโต”
สำหรับ ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาธุรกิจมีกำไร 1,500 ล้านบาทต่อปี หลังจากวิกฤติโควิด-19 ปี 2563 ลดลง 12% เหลือประมาณ 1,300 ล้านบาท โดยสิ้นปี 2564 น่ากลับไปอยู่ที่ระดับ 1,500 ล้านบาท และเติบโต 10-15% ในปี 2565
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ซื้อมาสเตอร์แฟรนไชส์แบรนด์ รีจัส (Regus) จาก IWG ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเช่าพื้นที่สำนักงาน และ Co-working ระดับโลก ตั้งเป้าหมายเปิดอย่างน้อย 40 แห่ง ภายใน 10 ปี ยกเว้นพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
นายจักรรัตน์ เรืองรัตนากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท รัตนากร แอสเซท จำกัด กล่าวว่า ตลาด Co-Working Space เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก ดังนั้น บริษัทจึงสนใจและได้ศึกษามาตลอด เพราะมองว่า Co-WorkingSpace เป็นธุรกิจที่มีอนาคตสดใสเนื่องจากปัจจุบันคนทำงานนอกสถานที่ได้หลากหลาย ขณะเดียวกัน ยังสอดรับกับไลฟ์สไตล์การทำงานของคนไทยในอนาคตทำให้บริษัทตัดสินใจร่วมมือกับ IWG ผู้ให้บริการพื้นที่สำนักงานให้เช่าแบบยืดหยุ่นสูง (Flexible Workspace ) เบอร์หนึ่งของโลก ซึ่งเป็นที่รู้จักในแบรนด์ Regus, Spaces, HQ และ Signature โดย IWG ได้มอบสิทธิหลักในการบริหารแฟรนไชส์ระดับภูมิภาค หรือมาสเตอร์แฟรนไชส์ให้บริษัทฯ เป็นผู้ร่วมพัฒนาและขยายธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้ข้อตกลงแฟรนไชส์ที่รัตนากร แอสเซทฯ สามารถพัฒนาพื้นที่สำนักงานให้เช่าแบบ Flexible Workspace
![](https://baanrem.com/wp-content/uploads/2022/01/c03e956a-2466-492f-9582-bd3834c4798d-900x506.jpg)
โดยในปี 65 นี้ บริษัทมีแผนจะนำร่องด้วยการเปิดศูนย์บริการ 5 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง โดยจะใช้พื้นที่อพาร์ตโฮเทลในเครือของบริษัทภายใต้แบรนด์ CITADINES ในเครือ Ascott โรงแรม 4 ดาว ประกอบด้วย พื้นที่พัทยาเหนือและพัทยากลาง 2 แห่ง ในศรีราชา 1 แห่ง และระยอง 1 แห่ง และอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะใช้แบรนด์ใดของ IWG เข้าไปเปิดให้บริการโครงการต่างๆ โดยแบรนด์ Regus จะใช้พื้นที่ประมาณ 800-1,500 ตารางเมตร (ตร.ม.) แบรนด์ Signature ใช้พื้นที่ 800-1,500 ตร.ม. แบรนด์ HQ ใช้พื้นที่ 500-1,000 ตร.ม. และแบรนด์ Spaces ใช้พื้นที่ 2,000-3,000 ตร.ม. ทั้งนี้บริษัทเป้าว่าจะเปิดศูนย์บริหารให้ได้ 40 แห่งภายในระยะเวลา 10 ปี โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการในหลากหลายธุรกิจในทุกภาคให้ความสนใจที่ซื้อแฟรนไชส์ในธุรกิจแล้วหลายราย
![](https://baanrem.com/wp-content/uploads/2022/01/Spaces-co-working-office-1-900x600.jpg)
จากสถานการณ์การกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้งลง และพร้อมๆ กับการแพร่ระบาดในปัจจุบัน ทำให้ผู้บริโภคเริ่มปรับตัวและยอมรับการอยู่ร่วมกันและทำงานร่วมในปัจจุบัน และมองไปถึงในอนาคตว่าทุกคนจะต้องทำงานใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เทรนด์การทำงานนอกพื้นที่สำนักงานขยายตัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และจะกลายเป็นรูปแบบการทำงานหลักในอนาคต ซึ่งส่งผลต่อการขยายตัวของ FlexibleWorkspace ในอนาคต ทำให้ทุกคนเชื่อมั่นว่านี่คือ เมกะเทรนด์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
Comments are closed.