ซีแพค กรีน โซลูชัน ผู้นำด้านนวัตกรรมการก่อสร้างเพื่อสิ่งแวดล้อม จัดกิจกรรมเสวนา “CPAC Green Solution ล้ำ เปลี่ยน โลก Roadshow” เพื่อเพิ่มความรู้ความเข้าใจ และประโยชน์ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาผลักดันนวัตกรรมก่อสร้าง (Digital & Construction Technology) ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านกระบวนการก่อสร้างแบบ “Turn Waste to Value” นับเป็นการยกระดับมาตรฐานงานก่อสร้างของประเทศไทยเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน รวมถึงการอัพเดทเทรนด์และนวัตกรรมการพัฒนางานก่อสร้างยุคใหม่ ตอกย้ำแนวคิด ‘ล้ำ เปลี่ยน โลก’ จาก CPAC Green Solution พร้อมบุกทั่วทุกภูมิภาค โดยล่าสุดขึ้นเหนือมาที่ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ห้อง NSP Rice Grain Auditorium อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ
![](https://baanrem.com/wp-content/uploads/2022/03/002.ภาพผู้บริหาร-900x600.jpg)
นายสุรชัย จบศรี CSC Director เชียงใหม่ ในฐานะตัวแทน บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด (CPAC) กล่าวถึงที่มาของการจัดงาน “CPAC Green Solution ล้ำ เปลี่ยน โลก Roadshow” ว่า “ซีแพค กรีน โซลูชัน นับว่าอยู่ในวงการอุตสาหกรรมก่อสร้างมายาวนาน ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยหยุดนิ่งที่จะศึกษานวัตกรรมใหม่ๆ และนำมาปรับใช้ เพื่อจุดมุ่งหมายที่จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างของประเทศไทยให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล ขณะเดียวกันก็คำนึงถึงเรื่องการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยกระบวนการ “Turn Waste to Value” คือการเปลี่ยน Waste หรือความสูญเสียให้เป็น Valueหรือการสร้างผลประโยชน์คืนกลับสู่สังคม ผ่านการพัฒนานวัตกรรมโซลูชันครบวงจรด้วย CPAC Green Solution โดยมีการนำแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยยึดหลัก ESG 4 Plus ของ SCG มาใช้ในการดำเนินงานคือ มุ่ง Net Zero – Go Green – Lean เหลื่อมล้ำ – ย้ำร่วมมือ – Plus เป็นธรรม โปร่งใส ทั้งนี้วัตถุประสงค์หลักของการจัดงานครั้งนี้เพื่อแชร์องค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีการก่อสร้าง (Digital & Construction Technology) อีกทั้งเพื่อสร้างความร่วมมืออันดีระหว่างผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันนี้ ตั้งแต่เจ้าของงานก่อสร้าง ผู้รับเหมา ช่าง ผู้ให้บริการ ด้านการก่อสร้าง ผู้ออกแบบ ผู้ผลิตวัสดุ และผู้จำหน่ายวัสดุทั้งในระดับประเทศรวมถึงในระดับท้องถิ่น”
สำหรับ ซีแพค กรีน โซลูชัน มีโซลูชันที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าครบ จบที่เดียว ตั้งแต่เริ่มกระบวนการก่อสร้าง (Pre Construction) ระหว่างการก่อสร้าง (Construction) รวมไปถึงหลังการก่อสร้าง (After Construction) โดยแบ่งเป็นกลุ่มตามโซลูชัน ดังนี้
![](https://baanrem.com/wp-content/uploads/2022/03/004.ภาพบรรยากาศ-900x600.jpg)
1.กลุ่มโซลูชันสำหรับงานสำรวจ และงานออกแบบ รวมไปถึงการควบคุมงานก่อสร้าง ได้แก่
- CPAC Drone Solution โซลูชันสำหรับการสำรวจพื้นที่ โดยใช้โดรนบินสำรวจ และนำข้อมูลมาออกแบบจัดทำผังโครงการ ลดระยะเวลาในการสำรวจและลดความผิดพลาดในการก่อสร้าง เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่
- CPAC BIM ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการบริหารงานก่อสร้าง เพื่อช่วยให้เห็นภาพงานก่อสร้างในทุกขั้นตอน
2.กลุ่มโซลูชันสำหรับงานก่อสร้าง ได้แก่
- CPAC 3D Printing Solution โซลูชันการก่อสร้างรูปแบบใหม่โดยเครื่องพิมพ์แบบ 3 มิติ ขึ้นรูปด้วยปูนซีเมนต์เป็นรูปผนังอาคาร หรือชิ้นส่วนของอาคาร ตลอดจนชิ้นงานสำหรับตกแต่ง โดยสามารถทำการพิมพ์ขึ้นรูปทั้งแบบในพื้นที่ก่อสร้างเลย (on-site) และแบบผลิตจากโรงงาน (off-site) ช่วยลดการเกิดของเสียจากกระบวนการก่อสร้างลงอย่างน้อย 70% เมื่อเปรียบเทียบกับระบบหล่อในที่
- CPAC Housing and Building Solution ก่อสร้างที่พักอาศัยที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยอยู่อย่างสะดวกสบาย และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการก่อสร้าง ลดการใช้แรงงาน และ ลดเศษวัสดุเหลือทิ้งจากการก่อสร้างที่หน้างานได้มากกว่า เมื่อเทียบกับระบบหล่อในที่ ประกอบด้วย ระบบผนังสำเร็จรูป (Precast) เป็นการผลิตผนังสำเร็จรูปจากโรงงาน แล้วนำมาประกอบหรือติดตั้งที่หน้างาน เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการก่อสร้าง ลดเศษวัสดุเหลือใช้ที่ไซต์งานก่อสร้าง และนวัตกรรมการก่อสร้างงานผนังครบวงจร Aluminium Formwork Wall Solution System ที่มาพร้อมกับทีมบริการและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานจาก CPAC Green Solution ติดตั้งด้วยระบบ Forming System ทำให้งานผนังมีคุณภาพแข็งแรงคงทน ผิวเรียบเนียน พร้อมด้วยความรวดเร็วในการทำงานที่เหนือกว่า ช่วยลดเวลา ลดการใช้แรงงาน และลดต้นทุนแฝงที่เกิดจากการซ่อมแซมในงานก่อสร้าง เหมาะสำหรับงานก่อสร้างในพื้นที่เขตแผ่นดินไหว
![](https://baanrem.com/wp-content/uploads/2022/03/003.ภาพบรรยากาศ-900x600.jpg)
![](https://baanrem.com/wp-content/uploads/2022/03/007.ภาพบรรยากาศ-900x600.jpg)
“นอกจากนี้ CPAC Green Solution ยังได้ร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) วิจัยโครงการ“การพัฒนาแนวทางการแก้ไขวัสดุขั้นพื้นฐานอย่างชาญฉลาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับการก่อสร้างถนนของประเทศไทย” สำหรับเป็นแนวทางในการที่จะพัฒนาวิธีการก่อสร้างถนน โดยการปรับเปลี่ยนการก่อสร้างชั้นพื้นทาง ที่เดิมจะต้องใช้วิธีถมดินและบดอัด เป็นวัสดุทางเลือกอื่นๆ ที่สามารถก่อสร้างได้เร็ว มีความแข็งแรง และลดการใช้ทรัพยากร ซึ่ง SCG มีความชำนาญในด้านวัสดุประเภทปูนซีเมนต์และคอนกรีต ในขณะที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) มีหน่วยวิจัยวัสดุงานทาง ที่มีความชำนาญในด้านการวิเคราะห์ ทดสอบและพัฒนาการออกแบบถนน นับเป็น ความร่วมมือที่ดี ซึ่งหากโครงการนี้เสร็จสมบูรณ์ยังสามารถนำมาเป็นโครงการนำร่องและต่อยอดเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อไปในอนาคตได้” นายสุรชัย กล่าวสรุป
ด้าน ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมแบบจำลองสารสนเทศอาคาร เผยว่า “อุตสาหกรรมก่อสร้างเกิดการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะเมื่อโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัล ดังนั้นจึงมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาเพื่อพัฒนาให้กระบวนการการดำเนินงานตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถ ตอบโจทย์ผู้ใช้ในงานให้ได้มากที่สุด และอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ปัจจุบันนำเอาเข้ามาใช้ ได้แก่ BIM หรือ Building Information Modeling เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการสร้างแบบครบวงจรที่มีความแม่นยำ ตั้งแต่ การออกแบบ การเขียนแบบ การคำนวณโครงสร้าง การประเมินราคา การวางแผนระบบต่างๆ ของอาคาร ฯลฯ”
![](https://baanrem.com/wp-content/uploads/2022/03/005.ภาพบรรยากาศ-900x600.jpg)
“ด้วยเทคโนโลยีของ BIM สามารถเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา การออกแบบก่อสร้างอาคารเราจะใช้พิมพ์เขียว (Blueprint) ในการสร้างแบบจำลอง ซึ่งสามารถก่อให้เกิดความผิดพลาดได้ง่าย เพราะ ในการก่อสร้างแต่ละครั้งย่อมจะต้องมีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้แม่แบบพิมพ์เขียวมีหลากหลาย โดยเฉพาะหากมีการแก้ไขแบบแล้วผู้เกี่ยวข้องแต่ละฝ่ายไม่ทราบก็ส่งผลให้เกิดความเสียหาย ล่าช้า เป็นต้น โดย BIM จะเข้ามาช่วยลดขั้นตอนความซับซ้อนตรงนี้ ซึ่งหลักการทำงานของ BIM คือทุกคนที่เกี่ยวข้องในระบบนิเวศน์ของโครงการก่อสร้างจะทำงานบนแพลตฟอร์มเดียวกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ แพลตฟอร์มที่ว่านี้จะเป็นระบบ 3 มิติ ดังนั้นจะทำให้เห็นภาพได้ง่ายและเข้าใจในสิ่งเดียวกัน ระบบสามารถตรวจสอบความขัดแย้งต่างๆ และสามารถแก้ไขได้ทันท่วงที ก่อนที่การก่อสร้างจะเริ่มต้น ทำให้ลดการสูญเสีย อีกทั้งเจ้าของโครงการก็สามารถตรวจสอบความก้าวหน้าได้ทุกเวลาและแจ้งแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนได้ทันท่วงที”
“ปัจจุบัน ซีแพคและอีกหลายๆ บริษัทก็ได้มีการนำ BIM เข้ามาใช้ ยกตัวอย่าง โครงการหมู่บ้านจัดสรร Malada เชียงใหม่ และโครงการหมู่บ้านจัดสรร สุุขนิรันดร์ แกรนด์วิลล่า เชียงราย เป็นต้น สำหรับแนวโน้มในอนาคตมองว่า BIM จะต้องเข้ามาปฏิวัติวงการก่อสร้างทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจวงการก่อสร้างจะต้องปรับตัวเข้าสู่ทิศทางการทำงานของ BIM เพื่อให้เราสามารถแข่งขันในธุรกิจนี้ต่อไปได้” ศ.ดร.อมร กล่าวปิดท้าย
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ CPAC Solution Center (CSC) เชียงใหม่ ได้ที่เบอร์ 092-271-4533