แอลพีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาล 2025 ปิดฉากลงเมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยนักกอล์ฟสาวไทยสร้างผลงานครองความยิ่งใหญ่ ด้วยการคว้าแชมป์รวมกัน 3 รายการ จาก “จีโน่” อาฒยา ฐิติกุล มือหนึ่งของโลก ที่กวาดรางวัลใหญ่แทบทั้งหมด ทั้งนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี สกอร์เฉลี่ยต่ำที่สุด และเงินรางวัลรวมสูงสุดต่อหนึ่งฤดูกาลในประวัติศาสตร์แอลพีจีเอ ขณะที่นักกอล์ฟไทยรายอื่น ๆ ก็ทำผลงานได้น่าพอใจ แม้จะยังไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ก็ตาม

ฤดูกาล 2025 มีการแข่งขันทั้งหมด 32 รายการ โดยนักกอล์ฟที่คว้าแชมป์มากที่สุดคือ “จีโน่” อาฒยา ฐิติกุล ซึ่งคว้าแชมป์ไป 3 รายการ ได้แก่ มิซูโฮ อเมริกา โอเพ่น, บิวอิค แอลพีจีเอ เซี่ยงไฮ้ และ ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ รายการปิดท้ายฤดูกาล ซึ่งเธอสามารถป้องกันแชมป์ได้เป็นสมัยที่สองติดต่อกัน ส่งผลให้มีเงินรางวัลรวมต่อหนึ่งฤดูกาลสูงสุดในประวัติศาสตร์ทัวร์กว่า 7.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (7,578,330 ดอลลาร์) จากการลงแข่งขัน 20 รายการ พร้อมเพิ่มสถิติแชมป์อาชีพแอลพีจีเอเป็น 7 รายการ

ผลงานของ “จีโน่” ไม่ได้โดดเด่นแค่จำนวนแชมป์เท่านั้น แต่ยังจบการแข่งขันใน 10 อันดับแรกมากถึง 14 รายการ มากที่สุดในทัวร์ โดยในจำนวนนั้นเป็นการจบใน 4 อันดับแรกถึง 10 รายการ และยังคว้ารางวัลสกอร์เฉลี่ยต่ำที่สุดแห่งปี (Vare Trophy) ด้วยสกอร์เฉลี่ย 68.68 ซึ่งถือเป็นสกอร์เฉลี่ยต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์แอลพีจีเอ นับเป็นครั้งที่สองที่เธอคว้ารางวัลนี้ ต่อจากปี 2023

นอกจากนี้ อาฒยา ยังคว้ารางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี (LPGA Tour Player of the Year) เป็นครั้งแรกในอาชีพ และเป็นนักกอล์ฟไทยคนที่สอง ต่อจาก “เม” เอรียา จุฑานุกาล ที่เคยทำได้ในปี 2018

ด้าน “พราว” ชเนตตี วรรณแสน เจ้าของแชมป์อาชีพแอลพีจีเอ 2 รายการ สร้างผลงานได้น่าประทับใจ จากการลงเล่น 24 รายการ โดยจบใน 10 อันดับแรก 3 รายการ ได้แก่ อันดับ 6 ร่วม แบล็ค เดสเซิร์ต แชมเปียนชิพ, อันดับ 10 ร่วม มายเออร์ แอลพีจีเอ คลาสสิก และอันดับ 2 ร่วม วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปียนชิพ

ขณะที่ “เม” เอรียา จุฑานุกาล เจ้าของแชมป์อาชีพแอลพีจีเอ 12 รายการ รวมถึง 2 แชมป์เมเจอร์ ลงแข่งขัน 17 รายการ แม้จะไม่สามารถคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ได้ แต่ยังทำผลงานจบใน 10 อันดับแรกถึง 6 รายการ โดยเฉพาะในรายการเมเจอร์ที่จบ 10 อันดับแรกถึง 3 รายการ ได้แก่ อันดับ 2 ร่วม เชฟรอน แชมเปียนชิพ, อันดับ 9 ร่วม ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น และอันดับ 7 ร่วม อามุนดี เอวิยอง แชมเปียนชิพ ส่วนอีกสองเมเจอร์ จบอันดับ 52 ร่วม วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปียนชิพ และอันดับ 23 ร่วม วีเมนส์ โอเพ่น

“เมียว” ปาจรีย์ อนันต์นฤการ เจ้าของแชมป์อาชีพแอลพีจีเอ 2 รายการ โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในช่วงท้ายฤดูกาล โดยลุ้นแชมป์ในรายการ ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ ก่อนจบอันดับ 2 รองจาก อาฒยา ฐิติกุล

ด้าน “แพตตี้” ปภังกร ธวัชธนกิจ แชมป์อาชีพแอลพีจีเอ 2 รายการ รวมถึงแชมป์เมเจอร์ ลงแข่งขัน 22 รายการ จบใน 10 อันดับแรก 3 รายการ ได้แก่ อันดับ 4 ร่วม ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์, อันดับ 10 ร่วม ซีพีเคซี วีเมนส์ โอเพ่น และอันดับ 7 ร่วม ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ รวมถึงอันดับ 9 ในรายการพิเศษประเภททีมผสม แกรนท์ ธอร์นทัน อินวิเทชันแนล

ส่วน “เปียโน” อาภิชญา ยุบล จบฤดูกาลในอันดับ 85 คะแนนสะสมเรซทู ซีเอ็มอี โกลบ ทำผลงานจบใน 10 อันดับแรก 1 รายการ เช่นเดียวกับ “โม” โมรียา จุฑานุกาล ที่จบอันดับ 96 คะแนนเรซทู ซีเอ็มอี โกลบ และจบใน 10 อันดับแรก 1 รายการ

และปิดท้ายด้วยการแข่งขันคัดเลือก แอลพีจีเอ คิว-ซีรีส์ ไฟนอล ควอลิฟายอิง สเตจ เพื่อรับทัวร์การ์ดฤดูกาล 2026 ที่จบไปเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ในฤดูกาลหน้าทัพสาวไทย จะมี ฮัท สุวิชยา วินิจฉัยธรรม นักกอล์ฟสาววัย 19 ปี จากจังหวัดขอนแก่น เสริมทัพในฐานะรุกกี้ของทัวร์

สำหรับแอลพีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาล 2026 จะเปิดฉากด้วยรายการ ทัวร์นาเมนต์ ออฟ แชมเปียนส์ ที่เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 29 มกราคม –1 กุมภาพันธ์ ปีหน้า แฟนกอล์ฟสามารถติดตามและร่วมเชียร์นักกอล์ฟสาวไทยบนเวทีกอล์ฟอาชีพสตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกได้ต่อไป

ข้อมูลเพิ่มเติม: www.lpga.com
เครดิตภาพ: LPGA/Getty Images