นิทรรศการศิลปะ “P O E S I S” โดยศิลปิน J.JAMES จัดแสดงโดย ODEM ณ River City Bangkok ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา และจะจัดต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 4 มกราคม 2569 (วันที่ 4 ธันวาคม 2568 – 4 มกราคม 2569)

นิทรรศการครั้งนี้เป็นการต่อยอดเชิงแนวคิดและวิธีการทำงานจากนิทรรศการเดี่ยว (SOLO EXHIBITION) ครั้งก่อนของ J.JAMES โดยชื่องาน “P O E S I S” ได้รับแรงบันดาลใจจากภาษาและกระบวนการสร้างสรรค์ของศิลปิน

Poesis: จากการสร้างสรรค์สู่การดำรงอยู่

ในภาษากรีกโบราณ “Poesis” (โพเอซิส) มีความหมายลึกซึ้งถึง “การนำสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาสู่การดำรงอยู่” หรือ “การสร้างสรรค์” ซึ่งเป็นรากศัพท์ของคำว่า “Poem” (บทกวี) ในภาษาอังกฤษความหมายนี้ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างลงตัวในภาพวาดของ J.JAMES ที่ใช้ บทกวีเป็นรากฐานทางแนวคิด (Conceptual Foundation) ก่อนที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่ผลงานจิตรกรรมนามธรรม (Abstract Painting) บนผืนผ้าใบ

ศิลปินกล่าวว่า:

“งานของฉันเริ่มต้นจากนามธรรมแห่งชีวิตที่เรียบง่าย… ผมเริ่มต้นจากแนวคิดที่ถ่ายทอดออกมาผ่านบทกวี ที่เรียงร้อย ก่อนจะแสดงออกมาผ่านภาพวาดบนผืนผ้าใบ”

ผลงานสำคัญที่ถูกหยิบยกมาจัดแสดง

ผลงานใหม่ที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ภาพเหมือนตนเอง (Self Portrait Series) ซึ่งสะท้อนความตึงเครียดภายในจิตใจผ่านพื้นผิวและสีที่แตกต่างกัน:

P A RA N O I D 01

แนวคิด: เป็นชิ้นงานแรกในชุด “Paranoid” สื่อถึงบทแรกของบทกวี Self Portrait ที่ว่า: “หวาดระแวง: ครุ่นคิดถึงการล่มสลาย; การตกสู่กับดักทางจิตวิทยาของเรา”

การแสดงออก: ผลงานใช้ความแตกต่างของพื้นผิวเพื่อสะท้อนความตึงเครียดระหว่างตัวตนที่ใช้ เหตุผล และตัวตนที่ใช้ อารมณ์ โดยเฉพาะพื้นผิวสีดำคล้ายยางมะตอยที่สื่อถึงความคิดมืดมนและความกังวลอันเนื่องมาจากความหวาดระแวง

A W E S T R U C K 01

แนวคิด: เป็นชิ้นงานแรกในชุด “Awestruck” สื่อถึงบทที่สองของบทกวี Self Portrait ที่กล่าวถึง: “ตะลึงงัน: ความงดงามอันน่าพิศวงของโลกเผยออกมาเป็นเกลียวหมุนหลากสีสัน”

การแสดงออก: ชิ้นงานนี้ใช้ความแตกต่างระหว่างพื้นผิว สี และการตกแต่งพื้นผิวเพื่อสะท้อนความตึงเครียดภายในเช่นกัน โดยมี สีม่วงแดงที่วาบขึ้น อย่างรุนแรง ซึ่งแสดงถึงความเข้มข้นของความรู้สึกตะลึงงันอย่างสุดขีด

ผลงานอื่น ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ:

‘Self’

ผลงานนี้พิจารณาถึงความแตกต่างระหว่าง ความโดดเดี่ยวส่วนบุคคล และ ธรรมชาติอันซับซ้อนไร้ขีดจำกัดของจิตใจ ซึ่งเป็นรากฐานของการมีตัวตน โดยมีรากฐานจากบทกวีชื่อ ‘ตนเอง’ ที่มีโครงสร้างเป็นบทสี่บรรทัด ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบภาพสามส่วนแบบนามธรรม (Abstract Triptych)

‘The irony’

เป็นการใคร่ครวญถึงความขัดแย้งในประสบการณ์และการรับรู้ เริ่มต้นจากบทกวีแบบมินิมัลลิสต์ (Minimalist Poem) ที่แต่ละบรรทัดมีเพียงคำเดียว:

dreaming becoming being ceasing

บทกวีสี่บรรทัดนี้ถูกถ่ายทอดผ่านภาพวาดบนผืนผ้าใบเพียงภาพเดียวในรูปแบบควอดริปไทช์ (Quadriptych) ซึ่งเป็นการจัดวางสี่ส่วนที่สื่อถึงวัฏจักรของสัจธรรม

งานศิลปะทั้งหมดในนิทรรศการนี้เป็นบทสะท้อนและถ่ายทอดจากบทกวีผ่านภาพวาดนามธรรม ซึ่งชวนให้ผู้ชมใคร่ครวญถึงหัวข้อต่าง ๆ ในประสบการณ์ของมนุษย์ ธรรมชาติ ชีวิต ตัวตน และวัฏจักรแห่งสัจจะธรรม ทำให้ผู้ชมสามารถเข้าใจและรู้สึกเชื่อมโยงไปกับแนวคิดเบื้องหลังของศิลปิน J.JAMES ได้อย่างลึกซึ้ง

เกี่ยวกับ  J. James

J. James (จัสติน เจ. บาร์ตเล็ตต์) เป็นศิลปินและนักออกแบบชาวอังกฤษ ประจำอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ผลงานของเขามุ่งถ่ายทอดบทกวีและปรัชญาผ่านรูปแบบนามธรรม ทั้งในสื่อดิจิทัลและสื่อดั้งเดิม โดยเน้นการแสดงออกทางความคิดและอารมณ์ผ่านรูปทรง สี และพื้นผิวอย่างลึกซึ้ง