ริสแลนด์ (ประเทศไทย) เปิดผลการดำเนินงานสุดปัง! โกยยอดขายรอบ 9 เดือนได้ถึง 6,260 ล้านบาท แตะ 83% ของเป้าหมายปี’ 64 เดินเครื่องจัดแคมเปญ “Big Boom End Year Sales” ปลุกตลาดส่งท้ายไตรมาส 4 เสิร์ฟส่วนลดพิเศษแบบดับเบิ้ลสูงสุดถึง 3.5 ล้านบาทและโปรโมชั่นอีกมากมาย พร้อมกันนี้ ได้ประกาศความสำเร็จจากการขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2564 ซึ่งกระแสตอบรับดีเกินคาดจากนักลงทุนรายใหญ่
ดร.จาง เหลียงกัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ริสแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในช่วง 9 เดือนแรก (มกราคม – กันยายน 2564) สามารถสร้างยอดขายรวมได้ถึง 6,260 ล้านบาท คิดเป็น 83% ของเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 7,500 ล้านบาท และเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 22% ที่มียอดขายอยู่ที่ 4,875 ล้านบาท เป็นเพราะริสแลนด์ได้พัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกทำเลที่มีศักยภาพและเชื่อมต่อกับเมือง ทำให้การเดินทางไปพื้นที่ต่างๆ เป็นไปได้อย่างสะดวก รวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งภายในและภายนอกโครงการ พร้อมด้วยการบริการด้านต่างๆ ที่รองรับทุกไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิต
ขณะเดียวกัน บริษัทได้ใช้กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลในการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้นอย่างการเพิ่มฟังก์ชันการจองซื้อพร้อมชำระเงินออนไลน์ และเมื่อบวกกับภาพลักษณ์ของริสแลนด์ที่มีความเป็นแบรนด์ระดับโลก ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและความแข็งแกร่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็ยิ่งทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นและตัดสินใจเลือกโครงการของ ริสแลนด์ ส่งผลให้บริษัทสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายและเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นตลาดในไตรมาส 4 ทางริสแลนด์ได้จัดแคมเปญ Big Boom End Year Sales เป็นซีรีส์ตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม โดยจะมอบส่วนลดพิเศษแบบดับเบิ้ลสูงสุดถึง 3.5 ล้านบาท พร้อมโปรโมชั่นอีกมากมายกับทั้ง 7 โครงการของริสแลนด์ ได้แก่ คอนโดมิเนียมโครงการอาร์ติซาน รัชดาฯ, คลาวด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี, คลาวด์ สุขุมวิท 23, เดอะ ลิฟวิน เพชรเกษม, สกายไรซ์ อเวนิว สุขุมวิท 64, เดอะ ลิฟวิน รามคำแหง และบ้านเดี่ยว – บ้านแฝดโครงการเลคซีรีน พระราม 2 และพิเศษสำหรับลูกค้าที่ทำการจองออนไลน์ผ่าน www.risland.co.th จะได้รับบัตรของขวัญเพิ่มเติมมูลค่า 10,000 บาท และ 20,000 บาท โดยริสแลนด์เตรียมเพิ่มสีสันการตลาดใหม่ๆ เพื่อคืนกำไรให้กับลูกค้าในทุกเดือนอีกด้วย
“การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของภาครัฐถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกให้กับเศรษฐกิจไทย ซึ่งคาดว่าในไตรมาส 4 อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวขึ้น โดยมีภาพรวมการเติบโตใกล้เคียงกับไตรมาส 1 ดังนั้น สำหรับคนที่มีกำลังซื้อและมีความพร้อม ช่วงนี้ถือเป็นโอกาสดีที่สุดในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพราะจะได้ของดีพร้อมราคาคุ้มค่าก่อนที่จะมีการปรับราคาขึ้นในปีหน้า”
ดร.จาง กล่าวเพิ่มเติมว่า ริสแลนด์เพิ่งเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 28 – 30 กันยายน 2564 โดยเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ซึ่งมีหุ้นกู้รุ่นอายุ 2 ปี 20 วัน และรุ่นอายุ 3 ปี มีอัตราดอกเบี้ย 4.00% และ 4.75% ต่อปีตามลำดับ จำนวนหุ้นกู้ที่เสนอขายมูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท เน้นเจาะกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งได้รับการตอบรับเกินคาด เพราะสามารถขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่วันแรกที่เปิดจอง
“ผลตอบรับจากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อหุ้นกู้ของเราที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AA(tha) แนวโน้มอันดับเครดิต Stable จาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด และมีความมั่นใจต่อริสแลนด์ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พร้อมทั้งมีความสามารถในการรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างสม่ำเสมอ โดยเงินทุนที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้จะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้ และเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนในการเสริมศักยภาพธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพื่อก้าวสู่ Big Movement สเต็ปถัดไปในอนาคต” ดร.จางกล่าวปิดท้าย
สำหรับบริษัท ริสแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระหว่างประเทศขนาดใหญ่ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ฮ่องกง ซึ่งดำเนินธุรกิจหลากหลายประเภท ได้แก่ การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย, โครงการเชิงพาณิชย์, การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการพัฒนาและบริหารโครงการสาธารณูปโภค เป็นต้น โดยริสแลนด์มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมภายใต้แนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในการสร้างความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสังคมไทย