สู่ความเป็น Global Destination เมื่อ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ใต้ร่มทีซีซีกรุ๊ปของ “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” ประกาศเดินเครื่องเต็มสูบ เนรมิต “ตึกสูงสุด” ในไทยให้เป็นแลนด์มาร์กระดับไอคอน ดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
หลังจากแอสเสทเวิรด์ฯได้ประกาศจับมือกับบริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลก “Adrian Smith + Gordon Gill Architecture” (AS+GG) ผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมสำคัญหลายแห่ง รวมถึงตึกสูงระฟ้าเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ประกาศเดินหน้าลงทุนโครงการระดับ “แลนด์มาร์ก” 3 แห่ง ได้แก่ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์, อควอทิค ดิสทริค พัทยา และ เวิ้งนครเขษม ดันโครงการด้านการท่องเที่ยวซึ่งจะเป็น “แลนด์มาร์ก” สำคัญของบริษัทในรอบ 5 ปีข้างหน้า ได้แก่
สำหรับ “ไอเดีย” การยกเครื่องพัฒนาโครงการ “เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนต์ เดสติเนชั่น” (ASIATIQUE THE RIVERFRONT DESTINATION) โครงการ 1 แอสเสทเวิรด์ฯจะปั้นให้เป็นแลนด์มาร์กระดับไอคอน (Iconic Landmark) ของกรุงเทพฯที่มีคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม
ประกอบด้วย ตึกสูงระฟ้า ที่ตั้งของโรงแรมริทซ์-คาร์ลตัน รีเซิร์ฟ จำนวน 124 ห้อง โรงแรมเจดับบลิว แมริออท มาร์คีส์ จำนวน 1,000 ห้อง ส่วนเซอร์วิส เรสซิเดนซ์คือ ริทซ์-คาร์ลตัน รีเซิร์ฟ แบรนเด็ด เรสซิเดนซ์ จำนวน 180 ห้อง รวมทั้งหมด 1,304 ห้อง ทั้งหมดอยู่ภายใต้การบริหารของเครือแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล
นอกจากนี้จะพัฒนาพื้นที่ค้าปลีกในเอเชียทีคให้มีส่วนผสมของ “Indoor & Outdoor Lifestyle” และ จัดเตรียมพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน พร้อมกับพัฒนาพื้นที่ด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งเตรียมเซ็นสัญญากับพันธมิตรระดับโลก
โครงการ 2 “อควอทิค ดิสทริค พัทยา” (AQUATIQUE DISTRICT PATTAYA) AWC วางเป้าหมายดึงสวนสนุกเลโก้แลนด์เป็นแม่เหล็กผสมผสานโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ใหม่ในพัทยา ซึ่งจะมีทั้งแหล่งชอปปิ้ง แหล่งท่องเที่ยว โรงแรมหรู 5 แบรนด์ และแบรนเด็ด เรสซิเดนส์ 2 แบรนด์ และพื้นที่ค้าปลีก นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับ Wellness ซึ่งตอบโจทย์การส่งเสริมให้พัทยาเป็นจุดหมายปลายทางของชายหาดยอดนิยม (Beachfront destination) ระดับโลก (สำหรับเงินลงทุนนั้นยังไม่ได้ระบุชัดเจน) (*ข้อมูลเดิมคาดว่าจะลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท)
การพัฒนาแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ
- ส่วนที่ 1 ธุรกิจเวลเนสและการประชุมสัมมนา (MICE) ดึงแบรนด์ร่วมงาน ได้แก่ แมริออท มาร์คีส์, เจดับบลิว แมริออท, เจดับบลิว แมริออท แบรนเด็ด เรสซิเดนซ์, ชีวาศรม และบำรุงราษฎร์
- ส่วนที่ 2 โรงแรม “เดอะ วีนแยทท์ คอลเล็กชั่น” เน้นการพักผ่อนในโรงแรมที่มีเอกลักษณ์ (ส่วนนี้จะเริ่มเปิดปี 2567)
- ส่วนที่ 3 โรงแรม “คิมป์ตัน” และ ที่พักอาศัย “คิมป์ตัน แบรนเด็ด เรสซิเดนซ์” เน้นพื้นที่สีเขียว ร้านอาหาร บาร์ และคอมมูนิตี้ มอลล์แบบ open-air ที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง
- ส่วนที่ 4 ธุรกิจด้านการกีฬา ผจญภัย สวนสนุก จะมีสวนสนุกแบบในร่ม “อควอเรีย” และ “เลโก้แลนด์” พร้อมด้วยโรงแรม “แมริออท ออโต้กราฟ คอลเล็กชัน”
โครงการที่ 3 เวิ้งนครเขษม พัฒนาเป็นโครงการพิเศษแบบ Mixed Development ทั้งโรงแรม ที่อยู่อาศัย และค้าปลีก ลงทุนกว่า 16,000 ล้านบาท เน้นความเป็นวัฒนธรรมแบบจีนดึงเสน่ห์ความเป็นไชน่า ทาวน์ มาสร้างประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวกับร้านค้าปลีกใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ เส้นทางมรดก มรดกทางประวัติศาสตร์ และถนนแห่งความบันเทิง พร้อมตอบโจทย์การสร้างจุดหมายปลายให้กับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
Comments are closed.