ดร.ณัฐวัฒน์ หงส์กาญจนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (Gistda) เป็นประธานการแถลงข่าวและสัมมนาการสาธิตทดสอบรถอัจฉริยะไร้คนขับ Auto Matic Guided Vehicle :AGV พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.ธนา ราษฎ์รภักดี หัวหน้าโครงการศึกษาและวิจัยเครื่องมือสำรวจและประมวลผลสำหรับ SMART CITY คณะผู้บริหาร นักวิจัย คณาจารย์ นิสิตนักศึกษา และสื่อมวลชน เข้าร่วมงานสัมมนา
ดร.ณัฐวัฒน์ หงส์กาญจนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ กล่าวว่า โครงการศึกษาและวิจัยเครื่องมือสำรวจและประมวลผลสำหรับ SMART CITY ซึ่งทางสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ได้สนับสนุนผลผลิตสำคัญของโครงการ คือ รถอัจฉริยะไร้คนขับจำนวน 2 คัน โดยพัฒนาและผลิตขึ้นในประเทศ ภายใต้ความร่วมมือและการทำวิจัยร่วมกันของ 3 มหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นแกนหลัก มหาวิทยาลัยนเรศวร และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สำหรับการจัดสัมมนาในครั้งนี้จะเป็นการสาธิตเทคโนโลยีรถอัจฉริยะไร้คนขับ ทั้ง 2 คันพร้อมการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับวงการวิชาการของประเทศไทย
ทั้งนี้การดำเนินโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ประเทศไปถึงจุดหมายสำคัญของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 ด้านพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ปลอดภัย เติบโตได้อย่างยั่งยืน หรือ SMART CITY โดยโครงการได้จัดทำรถต้นแบบ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ติดตั้งระบบนำร่องจากโครงข่ายระบุพิกัดแบบแม่นยำสูง และมีระบบ ประมวลผลแบบ AI ในรถ
ซึ่งทางคณะวิศวกรรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยนเรศวร และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA เพื่อศึกษาและออกแบบเครื่องมือสำรวจ ประมวลผล บริการข้อมูลภูมิสารสนเทศความละเอียดสูง เพื่อ Smart City ตามหลักวิชาการโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ และเพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาต้นแบบที่ต่อยอดจากการสำรวจ เพื่อเป็นแหล่งพื้นฐานข้อมูลสำหรับการวางแผนการพัฒนาหรือลงทุนในด้านต่าง ๆ หรือใช้เป็นข้อมูลเพื่อการปฏิบัติการสำหรับโครงข่ายระบบการคมนาคมอัจฉริยะ
โดยได้มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ในระดับล่างจนไปถึงระดับสูง ที่สร้างขึ้นมาโดยฝีมือคนไทย และยังแสดงถึงศักยภาพความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานในการรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคตของพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการค้นคว้าเรียนรู้และพัฒนาของเยาวชนไทยที่จะเป็นกำลัง สำคัญของประเทศในวันข้างหน้าต่อไป