ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI ผนึกกำลัง “เดลต้า” เตรียมส่งมอบนวัตกรรมสมาร์ทโฮม-นวัตกรรมอาคารเขียว อาทิ นวัตกรรมพลังงานแสงอาทิตย์, EV Charger สู่โครงการบ้านจัดสรร-คอนโด-โรงแรม ใหม่ในเครือออริจิ้น สร้างสังคมคาร์บอนต่ำ ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้บริโภคสู่ความยั่งยืน นำร่องใน 3 โครงการ ภายใน ไตรมาส 2/2567 นี้ พร้อมร่วมลุยกิจกรรมเพื่อสังคมและกิจกรรมการตลาดทั้งในและต่างประเทศ
นางอารดา จรูญเอก ประธานอำนวยการ และกรรมการกำกับดูแลบรรษัทภิบาลเพื่อความยั่งยืน บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า บริษัทได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ผู้นำโซลูชันการจัดการพลังงานและความร้อนและผู้นำธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ในการนำนวัตกรรมสมาร์ทโฮม และนวัตกรรมอาคารเขียว (Green Building Solutions) ของ DELTA มาใช้ภายในโครงการพัฒนาใหม่ในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ทั้งกลุ่มโครงการบ้านจัดสรรภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI โครงการคอนโดมิเนียมภายใต้บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL และโรงแรมภายใต้บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด (มหาชน) หรือ ONEO
“วันนี้ประเด็นสำคัญที่ผู้คนทั่วโลกต่างตระหนักร่วมกันคือเรื่องความยั่งยืน ผู้คนต้องการมีชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ดีต่อสุขภาพมากขึ้น และมีนวัตกรรมอัจฉริยะมากขึ้น ออริจิ้นในฐานะหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ มุ่งมั่นสร้างความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อมาร่วมส่งมอบนวัตกรรมที่ช่วยสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ หรือ Low-carbon society ให้ผู้บริโภค DELTA ถือเป็นพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนสอดคล้องกัน และเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีนวัตกรรมกรีนและนวัตกรรมอัจฉริยะต่างๆ อย่างครบถ้วน เชื่อว่าสินค้าของ DELTA จะเข้ามาช่วยเติมเต็มความสุข ยกระดับประสบการณ์การใช้ชีวิตให้แก่ผู้บริโภคในบ้าน คอนโดมิเนียม และโรงแรมของเราได้” นางอารดา กล่าว
เบื้องต้น บริษัทจะนำสินค้าและนวัตกรรมของ DELTA อาทิ EV Charger, ERV Wall Type, UV Sanitizer, Smart Pole เข้ามานำร่องใช้ในโครงการใหม่ในเครือออริจิ้น ดิ ออริจิ้น อี 22 สเตชั่น, เบลกราเวีย ราชพฤกษ์-นครอินทร์ ภายในช่วง ไตรมาส 2/2567 นี้ และจากนั้น จะทยอยนำไปใช้ในโครงการใหม่อื่นๆ รวมถึงดำเนินกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกันต่อไป
ด้านนายแจ็คกี้ จาง ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง DELTA และออริจิ้น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการยกระดับการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้มากยิ่งขึ้น โดยโซลูชันการจัดการคุณภาพอากาศภายในอาคารของเดลต้าสามารถช่วยแก้ไขปัญหาใหญ่อย่างมลพิษทางอากาศ PM2.5 ในประเทศไทย พร้อมช่วยส่งเสริมสุขภาพและการเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ ขณะเดียวกัน DELTA ยังคงมุ่งมั่นร่วมกับพันธมิตรภาคอสังหาริมทรัพย์ดำเนินการส่งมอบโซลูชันระบบอัตโนมัติและระบบเฝ้าระวังความปลอดภัยอัจฉริยะที่หลากหลาย ควบคู่กับโซลูชั่นสถานีชาร์จรถไฟฟ้าตลอดจนพลังงานสีเขียวเพื่อสภาพแวดล้อมการทำงานและการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน
ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระยะยาวครั้งนี้มุ่งเน้นให้ประโยชน์แก่ลูกค้าของออริจิ้น ด้วยการส่งมอบสินค้าและโซลูชันที่หลากหลายของ DELTA ตั้งแต่กลุ่มสมาร์ทโฮมโซลูชัน อาทิ ระบบอาคารอัตโนมัติ ระบบเฝ้าระวังความปลอดภัยอัจฉริยะ และโซลูชันการจัดการคุณภาพอากาศภายในอาคาร เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัย ความเป็นอยู่ที่ดี พร้อมช่วยประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ DELTA จะร่วมมือกับออริจิ้นในการพัฒนาโซลูชันอาคารสีเขียวโดยใช้โซลูชันการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียน และระบบกักเก็บพลังงานที่มีประสิทธิภาพของ DELTA
นอกจากนี้ ออริจิ้น และ DELTA ยังมีแผนจะดำเนินงานด้านกลยุทธ์การตลาดร่วมกัน อาทิ การจัดอีเวนท์ภายในประเทศ การจัดอีเวนท์ในต่างประเทศ การทำโรดโชว์ ขณะเดียวกัน ยังมีความมุ่งมั่นจะเดินหน้าทำกิจกรรมเพื่อสังคมและชุมชนร่วมกัน ตอบโจทย์การสร้างสังคมและชุมชนที่ยั่งยืนอีกด้วย
สำหรับ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA เป็น ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันการจัดการพลังงานและความร้อนและผู้นำธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในเครือ Delta Electronics, Inc. มีกลุ่มธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่ กลุ่มพาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มระบบอัตโนมัติ กลุ่ม Mobility และกลุ่มระบบโครงสร้างพื้นฐาน โดดเด่นด้วยโซลูชันประหยัดพลังงานที่ผ่านการวิจัยและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสำนักงานขายอยู่ในหลากภูมิภาคสำคัญทั่วโลก รวมถึงมีฐานการผลิตและศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D center) ในไทย และนานาประเทศ
ขณะที่ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย
1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 158 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 1/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton),
ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 247,795
ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร