ในวันนี้ กลุ่มรัตนรักษ์ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของปูนซีเมนต์นครหลวงได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมในจำนวนร้อยละ 25.54 จาก Jardine Cycle & Carriage Limited ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่มรัตนรักษ์รวมกันเพิ่มขึ้นเป็นประมาณร้อยละ 71.88 ซึ่งการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้ทำให้ต้องมีการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือทั้งหมดจากผู้ถือหุ้นรายย่อยตามมา ทั้งนี้ บริษัทเข้าใจว่า ไม่ว่าการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวจะมีผลเป็นอย่างไร ปูนซีเมนต์นครหลวงจะยังคงเป็นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไปตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการจดทะเบียนที่เกี่ยวข้อง โดยภายหลังการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้ กลุ่มรัตนรักษ์ ในฐานะผู้ก่อตั้งปูนซีเมนต์นครหลวงขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 จะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และผู้ถือหุ้นที่มีอํานาจควบคุมเพียงรายเดียว
การเข้าซื้อหุ้นของปูนซีเมนต์นครหลวงดังกล่าวของกลุ่มรัตนรักษ์เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเชื่อมั่นของกลุ่มที่มีต่อศักยภาพของตลาดโครงสร้างพื้นฐานและการก่อสร้าง และต่อศักยภาพของธุรกิจปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นอะกรีเกต คอนกรีตผสมเสร็จ และปูนซีเมนต์สำเร็จรูป (มอร์ตาร์) ตลอดจนวัสดุที่เป็นนวัตกรรมและวัสดุเพื่องานสถาปัตยกรรม เช่น คอนวูด (Conwood) และผนังสำเร็จรูปมวลเบาที่วางขายในตลาดภายใต้แบรนด์ ISUB ในปัจจุบัน ปูนซีเมนต์นครหลวงยังครองตําแหน่งหนึ่งในผู้นําในตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศเวียดนามตอนใต้ ประเทศศรีลังกา และประเทศกัมพูชา (ผ่านบริษัทร่วมทุน) ถือได้ว่าในภาพรวมแล้วบริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจวัสดุก่อสร้างระดับภูมิภาคที่มีโอกาสในการเติบโตหลากหลาย อย่างไรก็ดี ณ เวลานี้ ปูนซีเมนต์นครหลวงได้มุ่งเน้นให้ความสนใจในการขยายตัวสู่การบริการด้านการจัดการขยะและการบริการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม โดยให้บริการผ่านหน่วยธุรกิจอีโคไซเคิล (Ecocycle Business Units) ในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศศรีลังกา และประเทศกัมพูชา
ปูนซีเมนต์นครหลวงมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานอย่างมีกลยุทธ์เพื่อนำพาบริษัทไปสู่การยืนหยัดในฐานะหนึ่งในผู้นำตลาด โดยยึดมั่นในมาตรฐานสูงสุดทั้งในด้านวิชาชีพและมาตรฐานอุตสาหกรรม เพื่อให้ธุรกิจของปูนซีเมนต์นครหลวงได้เติบโตสอดคล้องไปกับโอกาสในด้านโครงสร้างพื้นฐานและพื้นที่ที่อยู่อาศัย และโอกาสต่าง ๆ สำหรับหน่วยธุรกิจอีโคไซเคิล (Ecocycle Business Units) ที่จะเกิดขึ้นต่อไป