Pet tourism คืออะไร?
เทรนด์ Pet tourism หรือการท่องเที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยง เป็นรูปแบบการท่องเที่ยวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่ผู้มีสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะจากกระแส Pet humanization ซึ่งทำให้เจ้าของอยากพาสัตว์เลี้ยงของตนออกไปท่องเที่ยวเพื่อทำกิจกรรม พร้อมทั้งได้ใช้เวลาและสร้างประสบการณ์พิเศษร่วมกันมากขึ้น จึงส่งผลให้ตลาด Pet tourism กลายเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต
4 ปัจจัยหลักที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตของเทรนด์ Pet tourism ได้แก่
- กระแส Pet humanization
ปัจจุบันกลุ่มผู้มีสัตว์เลี้ยงหันมาเลี้ยงสัตว์เสมือนลูกหรือสมาชิกครอบครัว (Pet parent) มากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มคนโสด ส่งผลให้เจ้าของยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อสัตว์เลี้ยงค่อนข้างมาก ทั้งด้านอาหาร ด้านสุขภาพ รวมถึงการพาสัตว์เลี้ยงออกไปท่องเที่ยวด้วยกัน
- จำนวนสัตว์เลี้ยงและผู้มีสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจำนวนสัตว์เลี้ยงทั้ง สุนัข แมว และสัตว์อื่น ๆ เช่น นก ปลา เพิ่มขึ้นราว 2.5%CAGR และยังสอดคล้องกับจำนวนครัวเรือนที่มีสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้นในอัตราใกล้เคียงกัน อีกทั้ง ในช่วงปี 2025-2028 จำนวนสัตว์เลี้ยงยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องราว 2.6%CAGR
- จำนวนธุรกิจที่พร้อมให้บริการด้าน Pet tourism เพิ่มมากขึ้น
จำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงเติบโต 17%CAGR ในช่วงปี 2015-2023 ทั้งในกลุ่มขายปลีกอาหารสัตว์เลี้ยง กลุ่มบริการทางการแพทย์ และกลุ่ม Pet care อีกทั้ง ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารจำนวนมากยังขยายบริการใหม่สำหรับกลุ่มผู้มีสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะด้วย
- การสนับสนุนจากภาครัฐ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเทรนด์ Pet tourism จึงจัดทำโครงการ Amazing Happy Paws เพื่อประชาสัมพันธ์และโปรโมต Pet tourism ทั้งแก่ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีสัตว์เลี้ยง ควบคู่ไปกับการสร้างฐานข้อมูลธุรกิจ Pet friendly เพื่อกลุ่ม Pet tourist โดยเฉพาะด้วย ซึ่งส่งผลให้การพาสัตว์เลี้ยงไปท่องเที่ยวได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น
SCB EIC ประเมิน 4 ธุรกิจที่น่าสนใจและมีโอกาสเติบโตจากกลุ่ม Pet tourist
- ธุรกิจโรงแรมและที่พัก
ธุรกิจโรงแรมและที่พักมีโอกาสจะได้รับรายได้เพิ่มขึ้นจากค่าเข้าพักสำหรับสัตว์เลี้ยง อีกทั้ง คาดว่าจะช่วยส่งเสริมให้อัตราเข้าพักเฉลี่ยของทั้งโรงแรมเพิ่มขึ้นตามไปด้วยจากการเจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่อย่างผู้มีสัตว์เลี้ยง ทั้งนี้ธุรกิจโรงแรมจะต้องจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมให้แก่สัตว์เลี้ยงที่เข้าพักด้วย
- ธุรกิจร้านอาหาร
ธุรกิจร้านอาหาร เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตจากกลุ่ม Pet tourist หากสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่นิยมพาสัตว์เลี้ยงมารับประทานอาหาร ซึ่งกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้ง ยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการจำหน่ายเมนูพิเศษสำหรับสัตว์เลี้ยง ทั้งในรูปแบบอาหารคาว อาหารหวาน และเครื่องดื่ม
- ธุรกิจขนส่งและการบิน
ปัจจุบันผู้มีสัตว์เลี้ยงนิยมพาสัตว์เลี้ยงร่วมเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ทั้งในเส้นทางภายในประเทศและระหว่างประเทศ จึงเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจขนส่งและสายการบิน อีกทั้ง ยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยพร้อมสัตว์เลี้ยงด้วย ทำให้สายการบินสามารถเพิ่มรายได้จาการเรียกเก็บค่าบริการพิเศษในส่วนนี้ได้เช่นกัน
- ธุรกิจ Pet healthcare & Wellness
ธุรกิจนี้มีโอกาสเติบโตจากกลุ่ม Pet tourist ด้วยการให้บริการในหลายด้าน เช่น การบริการ Pet care และ Pet grooming เพื่อเตรียมความพร้อมให้สัตว์ก่อนออกไปเที่ยว การตรวจสุขภาพและออกใบรับรองสุขภาพพร้อมฝังไมโครชิพเพื่อใช้ในการเดินทาง และการให้บริการด้านเวลเนสแก่สัตว์เลี้ยง อย่างเช่น การทำสปา การฉีดวัคซีน และการพาไปออกกำลังกายหรือว่ายน้ำ
ความท้าทายของภาคธุรกิจ และแนวทางการดึงดูด Pet tourism
ความท้าทายของภาคธุรกิจในการรองรับ Pet tourism คือการสร้างสมดุลในการให้บริการระหว่างกลุ่มลูกค้ารักสัตว์และกลุ่มที่ไม่คุ้นเคยกับสัตว์/เป็นภูมิแพ้สัตว์ และต้นทุนค่าใช้จ่ายในการบริการที่เพิ่มขึ้น โดยในด้านแรก ปฏิเสธไม่ได้ว่าการดำเนินธุรกิจจะต้องพึ่งพาลูกค้าทั้งกลุ่มรักสัตว์และกลุ่มที่ไม่คุ้นเคยกับสัตว์/เป็นภูมิแพ้สัตว์ ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจต้องแบ่งแยกพื้นที่ให้บริการของแต่ละกลุ่มให้ชัดเจน และกำหนดมาตรฐานความสะอาดในการให้บริการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจแก่ลูกค้าทั้ง 2 กลุ่ม ในอีกด้านหนึ่ง ธุรกิจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการรองรับกลุ่ม Pet tourist ที่จะต้องบริหารจัดการในรูปแบบของต้นทุนในการทำความสะอาด บุคลากรที่มารองรับการให้บริการ การบำรุงรักษา และอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับสัตว์เลี้ยง
ทั้งนี้แนวทางการดึงดูด Pet tourism ของภาคธุรกิจ ควรประกอบด้วย 1. การนำเสนอบริการที่ได้มาตรฐาน มีกฎระเบียบที่ชัดเจนและตรงตามความคาดหวังของกลุ่ม Pet tourist จากการกำหนดค่าบริการและการออกข้อกำหนดของสัตว์เลี้ยงให้ชัดเจนและยุติธรรม 2. การเพิ่มการประชาสัมพันธ์ด้วยรูปสัตว์เลี้ยง จะช่วยดึงดูด Online engagement ได้มากขึ้นและสามารถสื่อสารถึงกลุ่มผู้รักสัตว์ได้ตรงจุด และ 3. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพดีหรือระดับพรีเมียมเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้ารักสัตว์ที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง