ในโลกของนาฬิกาหรูระดับสูงที่มักถูกครอบงำด้วยขนบธรรมเนียมและมรดกทางประวัติศาสตร์ แบรนด์ใหม่อย่าง Vanguart กำลังก้าวเข้ามาเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ ด้วยแนวทางที่ล้ำสมัยในการสร้างสรรค์กลไกแห่งความหรูหรา Vanguart แบรนด์นาฬิกาอิสระจากสวิตเซอร์แลนด์ กำลังเขียนนิยามใหม่ให้กับวงการ ด้วยการผสานงานฝีมืออันซับซ้อนเข้ากับการออกแบบที่กล้าแกร่งและล้ำยุค
“เราไม่ได้มองหาช่องว่างในตลาด แต่เรามีวิสัยทัศน์ในการสร้างสรรค์บางสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของเราเอง” Axel Leuenberger ซีอีโอของ Vanguart กล่าว เขาและผู้ร่วมก่อตั้ง Mehmet Koruturk, Thierry Fisher และ Jeremy Frelechox ได้ผลักดันแบรนด์ให้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่โดดเด่นที่สุดในตลาดอิสระ ซึ่งเต็มไปด้วยแบรนด์เก่าแก่ที่มีชื่อเสียง สูตรความสำเร็จของพวกเขาคือการมุ่งเน้นที่การผลิตนาฬิกาในจำนวนจำกัด แต่ละเรือนถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยไม่ยึดติดกับขนบเดิม ๆ แต่ยังคงรักษาแก่นแท้ของศิลปะแห่งการทำนาฬิกาหรู
รากฐานของ Vanguart เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2016 เมื่อกลุ่มผู้ก่อตั้งซึ่งมีความหลงใหลในศาสตร์แห่งเวลามารวมตัวกัน จนในที่สุดแบรนด์ได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการในปี 2021 ณ เมือง La Chaux-de-Fonds ศูนย์กลางของอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิส ด้วยประสบการณ์จาก Leuenberger และ Frelechox ที่เคยทำงานกับ Audemars Piguet Renaud Papi (APRP) พวกเขาได้รับการฝึกฝนโดยปรมาจารย์อย่าง Giulio Papi และเรียนรู้ศิลปะในการผสมผสานระหว่างกลไกที่ซับซ้อนและความสวยงามที่ไร้ที่ติ “สำหรับเรา กลไกและดีไซน์ของนาฬิกาต้องอยู่ในระดับเดียวกัน นาฬิกาที่มีดีไซน์โดดเด่นแต่ขาดความประณีตในการผลิตจะไม่สามารถยืนหยัดผ่านกาลเวลาได้” Leuenberger กล่าว
นาฬิกาเรือนล่าสุดของ Vanguart ที่มีชื่อว่า Orb คือบทพิสูจน์ของปรัชญานี้ เป็นการตีความนาฬิการูปทรงกลมแบบดั้งเดิมใหม่ด้วยแนวคิดที่ล้ำยุค ทั้งในด้านวิศวกรรมและการออกแบบ รุ่นนี้มาในตัวเรือนไทเทเนียมหรือโรสโกลด์ พร้อมกลไก flying tourbillon ที่ตกแต่งด้วยมือทุกชิ้นส่วน นอกจากนี้ยังปฏิวัติแนวคิดของเม็ดมะยมแบบเดิมด้วยกลไกที่เรียกว่า ‘orbital mass’ ซึ่งเป็นองค์ประกอบลอยตัวประดับเพชร ที่สามารถเคลื่อนที่รอบหน้าปัดได้อย่างไร้รอยต่อ
เมื่อเปลี่ยนโหมดจากไขลานด้วยตนเองเป็นระบบอัตโนมัติ เพชรบน orbital mass จะเริ่มหมุนรอบหน้าปัด สร้างภาพลวงตาที่ดึงดูดสายตา “เราอยากให้มันเป็นเสน่ห์ที่ทำให้คนสงสัยและต้องการค้นหาว่ามันทำงานอย่างไร” Leuenberger กล่าว
ด้วยตัวเรือนขนาด 41 มม. Orb ถูกออกแบบให้เป็นนาฬิกาแบบยูนิเซ็กส์ ซึ่งก้าวข้ามแนวคิดดั้งเดิมที่แบ่งแยกเพศในวงการนาฬิกาหรู “ปัจจุบัน นาฬิกาหรูไม่ได้ถูกเก็บไว้ในตู้นิรภัยอีกต่อไป แต่ถูกสวมใส่และสัมผัสประสบการณ์จริง” Koruturk กล่าว “ดังนั้นความสบายในการสวมใส่จึงมีความสำคัญมากขึ้น และเราได้ใส่แนวคิดนี้ลงไปในทุกมิติของการออกแบบ Orb”
ความลงตัวระหว่างความก้าวล้ำทางเทคนิคและศิลปะแห่งงานฝีมือคือสิ่งที่ทำให้ Vanguart โดดเด่นในตลาดนาฬิกาอิสระ ซึ่งกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยนักสะสมที่มองหาตัวเลือกใหม่ ๆ นอกเหนือจากแบรนด์หรูดั้งเดิม
“ปัจจุบันผู้คนให้ความสนใจในนาฬิกาอิสระมากขึ้น” Leuenberger กล่าว “มีนักสะสมจำนวนมากที่เริ่มเปิดรับแบรนด์ที่ไม่ใช่กระแสหลัก และคนรุ่นใหม่ก็มีความรู้และความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นกว่าเดิม มันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับวงการนาฬิกาอิสระ และเรามั่นใจว่าอนาคตของวงการนี้กำลังถูกกำหนดขึ้นในขณะนี้”
แม้จะเพิ่งก่อตั้งได้เพียง 3 ปี แต่ Vanguart ก็สามารถสร้างฐานแฟนคลับที่ให้ความสำคัญทั้งกับนวัตกรรมและงานฝีมือระดับสูงได้อย่างแข็งแกร่ง หาก Orb เป็นสัญญาณบ่งบอกทิศทางในอนาคต ก็นับเป็นข้อพิสูจน์ว่าแบรนด์นาฬิกาน้องใหม่นี้กำลังเดินหน้าเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในโลกของ haute horology อย่างแท้จริง