CPAC ผู้นำนวัตกรรมก่อสร้างเพื่อสิ่งแวดล้อมผนึกกำลังกับพันธมิตรธุรกิจ เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ เดินหน้าตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน ด้วยแนวคิด “Low Carbon Construction” ผ่านการเลือกใช้ “คอนกรีตคาร์บอนต่ำซีแพค” ในการก่อสร้างบ้านรักษ์โลก เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) พร้อมมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050
นายถิรวัฒน์ พูนกาญจนะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด หรือ CPAC เผยว่า CPAC เป็นผู้นำในการผลิตวัสดุก่อสร้างที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ผ่าน Green Product (สินค้ารักษ์โลก), Green Process (กระบวนการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม) และ Green Logistics (การขนส่งสีเขียว) ซึ่งบริษัทฯ มีสินค้ารักษ์โลกที่ตอบโจทย์ลูกค้าสายกรีนอย่างครอบคลุมทุกมิติ โดยเฉพาะ “คอนกรีตคาร์บอนต่ำ” ทำให้ลูกค้าที่เลือกใช้ร่วมรักษ์โลกไปด้วยกัน และด้วยแนวโน้มของตลาดก่อสร้างที่ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะมีการเติบโตมากขึ้น ซึ่งเกิดจาก หลายปัจจัย เช่น ความต้องการของผู้บริโภค, การสนับสนุนจากภาครัฐ ทำให้ดีเวลลอปเปอร์มีการปรับตัวและเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีความยั่งยืน
“ความร่วมมือระหว่าง CPAC และ เอ็น.ซี. เป็นเครื่องยืนยันได้ว่าเราทั้งสององค์กรมีวิสัยทัศน์และเป้าหมายเดียวกัน คือการเดินหน้าสู่การก่อสร้างอย่างยั่งยืน พร้อมส่งเสริมมาตรการที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม, สังคม และการบริหารองค์กรที่มีธรรมาภิบาล รวมถึงเป็นแรงกระตุ้นให้ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทยตระหนักถึง งานก่อสร้างเพื่อสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการผลิต และการที่ เอ็น.ซี. เลือกใช้คอนกรีตคาร์บอนต่ำซีแพค เพื่อพัฒนาโครงการแนวราบทั้งหมด 9 โครงการ สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ได้ถึง 1,371,570 kgCO₂e หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 144,375 ต้น ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งกลไกในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2050 ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้”
นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากนโยบายการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ทาง เอ็น.ซี. ให้ความสำคัญกับระบบการก่อสร้างตั้งแต่ฐานราก ในโครงการแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์โฮม ภายใต้แบรนด์บ้านชั้นนำ อาทิ เอ็น.ซี. นีโอลา, บ้านฟ้ากรีนเนอรี่ นีโอลา รังสิต-คลอง 2, บ้านฟ้ากรีนเนอรี่ นีโอลา วงแหวน-ลำลูกกาคลอง 7, บ้านฟ้ากรีนเนอรี่ ธีโอ ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ, บ้านฟ้ากรีนเนอรี่ ธีโอ ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม, เอ็น.ซี. ทิวา ปิ่นเกล้า-สาย 5, บ้านฟ้าแกรนด์ทาวน์นี่ เวสต์เกต, บ้านฟ้าทาวน์นี่ ศรีนครินทร์-เทพารักษ์, บ้านฟ้าแกรนด์ทาวน์นี่ เพชรเกษม – สาย 5
ซึ่งทุกโครงการถือเป็นต้นแบบของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยการนำเทคโนโลยีจากพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญอย่าง CPAC มาใช้ โดยเฉพาะการใช้ คอนกรีตคาร์บอนต่ำ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ตั้งแต่กระบวนการผลิต อีกทั้งช่วยลดผลกระทบต่อสภาพอากาศ ทั้งนี้ เอ็น.ซี. ให้ความสำคัญกับสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยควบคู่ไปกับการดูแลโลกใบนี้ และต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดด้วยบ้านที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย และยังร่วมรักษ์โลกไปด้วยกัน การร่วมมือกับ CPAC ในครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญของการก่อสร้างยุคใหม่ที่ทั้งแข็งแรง ปลอดภัยและใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยนำร่องทุกโครงการ ทุกแบบบ้านเข้าร่วมโครงการ “รักษ์บ้าน รักษ์สิ่งแวดล้อม สู่บ้านสีเขียวคาร์บอนต่ำ”
“การพัฒนาองค์กรด้วยมาตรฐาน ESG (Environmental, Social, Governance) ช่วยให้ธุรกิจของเราเข้าใจ ถึงความต้องการของผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น พร้อมมองว่าอนาคตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย จะขับเคลื่อนด้วยคุณค่าที่ยั่งยืน ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องปรับตัวและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษา ขีดความสามารถในการแข่งขัน และบริหารจัดการองค์กรได้อย่างเป็นรูปธรรมควบคู่ไปกับการรับผิดชอบต่อสังคมและใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งการผนึกกำลังของ CPAC และ เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง สู่ปีที่ 31 ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทในการผลักดันอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ” นายสมนึก กล่าว