ล่าสุด ได้ประกาศแต่งตั้ง 6 บริษัทผู้รับเหมาชั้นนำระดับประเทศเพื่อพัฒนางานก่อสร้างอาคารต่างๆ ในเฟสแรกของโครงการ One Bangkok ซึ่งถือเป็นเมืองอัจฉริยะต้นแบบครบวงจร โดยออกแบบด้วยแนวคิดที่คำนึงถึงผู้คนเป็นหลัก ด้วยมาตรฐานคุณภาพสูงสุดและใหญ่ที่สุดใจกลางเมืองของกรุงเทพฯ ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 1.2 แสนล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ดิน)

ทั้งนี้ One Bangkok ตั้งอยู่บนพื้นที่รวมกว่า 1.83 ล้านตารางเมตรเมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้วจะประกอบด้วยอาคารสูงทั้งหมด 11 อาคาร พื้นที่รีเทลและพื้นที่ไลฟ์สไตล์ 4 แห่ง โดยนักออกแบบและทีมสถาปนิกชั้นนำระดับโลก โดยผู้รับเหมาดังกล่าวจะรับผิดชอบงานก่อสร้างอาคารต่างๆ ในเฟสแรกของโครงการวัน แบงค็อก อันประกอบด้วยอาคารสูง 8 อาคาร

โดยมีพื้นที่รีเทลและพื้นที่ไลฟ์สไตล์ 3 แห่ง บนพื้นที่รวมทั้งหมด 896,000 ตารางเมตร ที่พร้อมจะเปิดให้บริการในปี 2566 เมื่อรวมกับพื้นที่งานโครงสร้างใต้ดิน 500,000 ตารางเมตร จะมีพื้นที่ของโครงสร้างในส่วนนี้ทั้งหมดกว่า 1.3 ล้านตารางเมตร โดยผู้รับเหมาแต่ละรายมีขอบข่ายงานดังนี้

ไทยโอบายาชิ (บริษัท นันทวัน จำกัด) ดูแลงานก่อสร้างอาคารสำนักงาน พื้นที่รีเทลและพื้นที่ไลฟ์สไตล์ บนพื้นที่ 200,000 ตารางเมตร

อิตาเลียนไทย-ไทยทาเคนาคา (จากการร่วมทุนระหว่าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยทาเคนาคาสากลก่อสร้าง จำกัด) ดูแลงานก่อสร้างอาคารสำนักงาน พื้นที่รีเทลและพื้นที่ไลฟ์สไตล์ บนพื้นที่ 280,000 ตารางเมตร

บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) ดูแลงานก่อสร้างอาคารสำนักงาน อาคารที่อยู่อาศัย พื้นที่รีเทลและพื้นที่ไลฟ์สไตล์ บนพื้น 260,000 ตารางเมตร

บริษัท วิศวภัทร์ จำกัด ดูแลงานก่อสร้างโรงแรมและอาคารที่อยู่อาศัย บนพื้นที่ 80,000 ตารางเมตร

บริษัท กรณิศ ก่อสร้าง จำกัด ดูแลงานก่อสร้างโรงแรม 2 อาคาร บนพื้นที่ 46,000 ตารางเมตร

บริษัท ที.ที.เอส.เอ็นจิเนียริ่ง (2004) จำกัด ดูแลงานก่อสร้างศูนย์ประชุม บนพื้นที่ 30,000 ตารางเมตร

ทั้งนี้ เรามีความเชื่อมั่นในการผสานพลังอันแข็งแกร่งของทุกภาคส่วน จึงได้จับมือร่วมกับผู้รับเหมาระดับแนวหน้าของไทย เดินหน้าการก่อสร้างเฟสแรกที่สมบูรณ์แบบที่สุด เป้าหมายเพื่อให้โครงการวัน แบงค็อกได้เป็นแลนด์มาร์คระดับโลกอย่างสง่างาม พร้อมดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

ด้านนางสาว ซู หลิน ซูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโครงการ วัน แบงค็อก กล่าวว่า วัน แบงค็อก ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่สุดใจกลางเมือง และมีความละเอียด ซับซ้อน ดังนั้นผู้พัฒนาโครงการ และผู้รับเหมาทั้งหมดจึงต้องมีความเชี่ยวชาญ ในการวางแผน การบริหาร การจัดการ การตรวจสอบและควบคุมมาตรฐานคุณภาพ เพื่อรับมือกับความท้าทายจากงานก่อสร้างที่อยู่ภายในพื้นที่ใจกลางเมืองเช่นนี้ ทุกบริษัทล้วนมีประสบการณ์ในการก่อสร้างโครงการที่มีข้อกำหนดภายใต้มาตรฐาน LEED

โดยเป็นมาตรฐานสำหรับการออกแบบและก่อสร้างอาคารสีเขียวที่ยั่งยืนและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายที่สุดในโลก รวมถึงมาตรฐาน WELL ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสูงสุดที่ใช้กับอาคาร การออกแบบพื้นที่เพื่อสุขอนามัยของผู้อยู่อาศัย สอดคล้องกับเป้าหมายของวัน แบงค็อก

ทั้งนี้ เรามุ่งสู่การเป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองทั้งมาตรฐาน LEED for Neighborhood Development ระดับ Platinum สำหรับการพัฒนาชุมชนแวดล้อม และมาตรฐานรับรองอาคาร WELL เพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้อาคาร

นอกจากนี้ เรายังสนับสนุนให้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมการก่อสร้างที่ทันสมัยมาใช้ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงานก่อสร้าง และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงพัฒนาแผนการจัดการขยะและมลพิษจากการก่อสร้างโครงการแบบองค์รวมที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ วัน แบงค็อก ตั้งอยู่บนถนนวิทยุและถนนพระราม 4 พร้อมเปิดให้บริการเฟสแรกในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2570

Comments are closed.