สำหรับใครที่ชื่นชอบในการสะสมน้ำหอม เทียนหอม หรือหลงใหลเครื่องหอมดี ๆ ชื่อ diptyque ต้องเป็นหนึ่งในชื่อที่คุ้นหูอย่างแน่นอน ด้วยกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ประหนึ่งงานศิลปะที่บอกเล่าเรื่องราว ทำให้แบรนด์ น้ำหอม diptyque จากฝรั่งเศสแบรนด์นี้ ครองใจคนจำนวนไม่น้อย

บนถนน 34 Boulevard Saint-Germain และการพบกันของสามสหาย

ฝรั่งเศส ในปี 1961 บนถนน Boulevard Saint-Germain (บูเลอวาร์ แซ็งต์-แฌร์แม็งค์) หนึ่งในถนนสายหลักของมหานครปารีส ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ศิลปะ และแน่นอน น้ำหอม

diptyque เกิดขึ้นจากการพบกันของคนสามคน คือ Christiane Gautrot นักออกแบบภายใน Desmond Knox-Leet จิตกร และ Yves Coueslant ผู้ออกแบบฉากในโรงละคร ทั้งสามคนรู้จักกันผ่านเพื่อนของเพื่อน และกลายมาเป็นเพื่อนสนิทที่แยกจากกันไม่ขาด ทั้งสามคนตัดสินใจเปิดร้านร่วมกันในบ้านเลขที่ 34 Boulevard Saint-Germain โดยมีจุดประสงค์คือทำในสิ่งตัวเองรักและหลงใหล นำไปสู่จุดเริ่มต้นของตำนานแบรนด์เครื่องหอมในเวลาต่อมา

ในปี 1963 ทั้งสามคนเกิดความคิดที่จะทำเทียนหอมให้เข้ากับงานที่พวกเขาออกแบบ หลังจากการลองผสมส่วนผสมต่าง ๆ จึงเกิดเป็นเทียนหอม 3 กลิ่นแรก คือ Aubépine, Cannelle และ Thé ผลคือ มันประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ในฐานะงานศิลป์ที่ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านกลิ่นหอม เทียนหอมทั้งหมดถูกทำขึ้น ในห้องทำงานของ Desmond ชั้นบนของร้าน diptyque ร้านแรก วันเวลาล่วงเลยผ่านไป 5 ปี ในปี 1968 หากทุกท่านมาเยือนร้านในช่วงปีนี้เป็นต้นไป ท่านจะสามารถซื้อได้ทั้งเทียนหอมที่ได้รับความนิยม และน้ำหอมตัวแรกของ diptyque นั่นคือ eau de toilette ที่มีชื่อว่า “L’Eau”

นอกจากเทียนและน้ำหอม ปัจจุบันนี้ diptyque ก็ยังผลิตเครื่องหอมในรูปแบบต่าง ๆ ออกมาตีตลาดอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น สบู่ น้ำหอมระเหย น้ำหอมปรับอากาศรถยนต์ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่งสินค้าของ diptyque นั้น เป็นสินค้าที่ทำมาให้ใช้ได้แบบ unisex ผู้ชายใช้ได้ ผู้หญิงใช้ดี

บันทึกความทรงจำของสถานที่และช่วงเวลาผ่านกลิ่นหอม

เทียนหอม และ น้ำหอม diptyque มักได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเดินทาง สถานที่ต่าง ๆ จากตะวันตก ถึงตะวันออก รวมถึงกลิ่นของดอกไม้ต่าง ๆ ที่ผลิบานอยู่ในแถบนั้น การจุดเทียนหอม หรือการฉีดน้ำหอม diptyque จึงเป็นเหมือนการออกเดินทางไปสู่สถานที่นั้น ๆ  ในช่วงเวลาหนึ่ง ที่ diptyque จับกลิ่นอาย ความรู้สึกในช่วงเวลานั้น มาใส่ในเทียนและขวดน้ำหอม

แบบโลโก้รูปวงรีที่จดจำได้ทันที ความรักในการประดิษฐ์ตัวอักษรของเขายังคงอยู่กับฉลากที่วาดด้วยมือทุกชิ้นชื่อของแต่ละผลิตภัณฑ์เขียนด้วยหมึกอินเดียสีดำและตัวอักษร ในรูปแบบบทกวี  อีกสิ่งหนึ่งที่เราอยากให้สังเกต คือ ฉลากของน้ำหอม ถ้าสังเกตดู น้ำหอม diptyque แต่ละกลิ่นจะมีภาพบนฉลากที่แตกต่างกันออกไป ตามแรงบันดาลใจ สถานที่ หรือดอกไม้ที่ต่างกันในแต่ละกลิ่น ทำให้นอกจากได้เล่าเรื่องราวผ่านกลิ่นแล้ว งานศิลป์ประกอบกลิ่นก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

ROSE LOVERS

ในปีนี้น้ำหอมDiptyque Eau de Rose ในรูปแบบเทียนหอม และEau de Parfum ฉลองครบ 10 ปีของหนึ่งในน้ำหอมกลิ่นขายดี มาพร้อมความสง่างาม หรูหรา และเย้ายวนใจนี้มาจากดอกุหลาบดามัสเซน่าและเซนติโฟเลียที่สวยงามหรูหราและถือเป็นดอกกุหลาบที่ให้กลิ่นหอมมากที่สุด ถูกนำมาสกัดในรูปแบบธรรมชาติโดยผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านกุหลาบ ที่นำกุหลาบทั้งดอกมาสกัดแล้วผสานใบกุหลาบสด หนาม และดอกตูม เป็นกลิ่นหอมของดอกกุหลาบที่เรียบง่าย ทันสมัย มีเสน่ และครองใจผู้คน เป็นเจ้าของกลิ่นหอมใหม่ของ Diptyque Eau de Rose ในรูปแบบเทียนหอมและ Eau de Parfum ที่เหล่าคนรักกุหลาบและแฟนๆ Diptyque ไม่ควรพลาด