อายากะ ฟูรุเอะ โปรรุกกี้แอลพีจีเอ ทัวร์ ชาวญี่ปุ่นวัย 22 ปีระเบิดฟอร์มวันสุดท้ายทำ 10 เบอร์ดี้ โดยไม่เสียโบกี้ ปาดหน้าคว้าแชมป์ “ทรัสต์กอล์ฟ วีเมนส์ สก็อตติช โอเพ่น 2022” ไปครอง ด้วยสกอร์รวม 21 อันเดอร์พาร์ 267 รับเงินรางวัลไปราว 11 ล้านบาท โดยเอาชนะเซลีน บูติเยร์ โปรฝรั่งเศสผู้นำรอบสามที่คว้ารองแชมป์ไป 3 สโตรก ขณะที่โปรแจน–วิชาณี มีชัย สู้อย่างเต็มที่คว้าอันดับ 8 ร่วม ซึ่งเป็นผลงานดีที่สุดของเจ้าตัวในการลงเล่นรายการนี้ทั้งหมด 5 ครั้ง สกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์ 274 รับเงินรางวัลเกือบ 1.7 ล้านบาท ด้านดร.ปริญ สิงหนาท ผู้ก่อตั้งทรัสต์กอล์ฟยืนยันว่า “ทรัสต์กอล์ฟ วีเมนส์ สก็อตติช โอเพ่น” ปีหน้าจะยังคงจัดขึ้นที่ดันโดนัลด์ ลิงค์ส คอร์สเช่นเดิมหลังจากปีนี้ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม
กอล์ฟสตรีทัวร์ผสมระหว่างแอลพีจีเอ ทัวร์ และเลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ รายการ “ทรัสต์กอล์ฟ วีเมนส์ สก็อตติช โอเพ่น 2022” ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 68 ล้านบาท ณ ดันโดนัลด์ ลิงค์ส คอร์ส ระยะ 6,584 หลา พาร์ 72 ในสกอตแลนด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมาเป็นการแข่งขันวันสุดท้าย ซึ่งการต่อสู้แย่งแชมป์สนุกเข้มข้นในกลุ่มลีดเดอร์บอร์ด
อายากะ ฟูรุเอะ รุกกี้แอลพีจีเอ ทัวร์ จากญี่ปุ่น ออกสตาร์ทวันสุดท้ายจากอันดับ 9 ระเบิดฟอร์มทำ 10 เบอร์ดี้ โดยไม่เสียโบกี้เลยตลอดวัน แซงคว้าแชมป์ไปด้วยสกอร์รวม 21 อันเดอร์พาร์ 267 คว้าแชมป์ ทรัสต์กอล์ฟ วีเมนส์ สก็อตติช โอเพ่น 2022 และเป็นแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการแรกของเธอด้วย รับเงินรางวัลไป 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 11.1 ล้านบาท
สวิงสาววัย 22 ปี ให้สัมภาษณ์หลังจากคว้าแชมป์ว่า “ดีใจและมีความสุขมาก เนื่องจากตามหลังอยู่ 4 สโตรก ไม่ง่ายที่จะขึ้นไปเป็นผู้นำ เนื่องจากมีแต่นักกอล์ฟฝีมือดีทั้งนั้น แต่ดีใจที่ตัวเองเล่นได้ดีและคว้าแชมป์ในท้ายที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคว้าแชมป์ในลิงค์ส คอร์ส ต้องขอบคุณแคดดี้ที่ช่วยให้คำแนะนำดี ๆ รวมถึงเรื่องการคาดคะเนทิศทางของลม ซึ่งมีผลต่อการเล่น แชมป์นี้ไม่เพียงเป็นแชมป์แอลพีจีเอแรกในอาชีพ แต่เป็นแชมป์แรกในสกอตแลนด์ของฉันด้วย ซึ่งมีความหมายที่พิเศษมาก และหวังว่าจะรักษาผลงานดีต่อเนื่องในรายการเมเจอร์สัปดาห์หน้า”
เซลีน บูติเยร์ โปรสาวฝรั่งเศสสายเลือดไทยผู้นำร่วมจากรอบสาม ฟอร์มแผ่วเก็บเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวม 18 อันเดอร์พาร์ 270 คว้ารองแชมป์ รับเงินรางวัล 180,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6.7 ล้านบาท รองแชมป์ “ทรัสต์กอล์ฟ วีเมนส์ สก็อตติช โอเพ่น 2022” ให้สัมภาษณ์ว่า “ผิดหวังเล็กน้อยเพราะมุ่งมั่นที่จะคว้าแชมป์ แต่โดยรวมพอใจกับเกมของตัวเอง และเล่นดีตลอดสัปดาห์ ความมุ่งมั่นทำให้กดดันมากเกินไปสำหรับการเล่นรอบสุดท้ายในกลุ่มสุดท้ายของวันไม่ใช่เรื่องง่ายในการจัดการ คอนโทรลสิ่งต่าง ๆ แต่ประสบการณ์ที่ได้รับจากการแข่งขันครั้งนี้ ทำให้ฉันมั่นใจว่าครั้งหน้าฉันจะได้ชูถ้วยแชมป์ แต่ผลงานในรายการนี้ช่วยให้ฉันมั่นใจมากยิ่งขึ้นในการแข่งขันสัปดาห์หน้า”
ฮโยจู คิม โปรมือ 9 ของโลกจากเกาหลีใต้ วันสุดท้ายทำ 6 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวมสี่วัน 17 อันเดอร์พาร์ 271 คว้าอันดับสามร่วมกับเชเยนน์ ไนท์ โปรอเมริกัน วันสุดท้ายทำ 5 อันเดอร์
ลิเดีย โค มือ 4 ของโลกจากนิวซีแลนด์ผู้นำร่วมจากรอบสามพลาดคว้าแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ ที่ 18 หลังจากวันสุดท้ายทำเพิ่มแค่ 1 อันเดอร์ สกอร์รวม 16 อันเดอร์พาร์ 272 จบอันดับ 5 ร่วมกับ อลิสัน ลี โปรสาวอเมริกัน วันสุดท้ายทำ 6 อันเดอร์
นาสะ ฮาตาโอกะ มือ 8 ของโลกจากญี่ปุ่น วันสุดท้ายทำเพิ่ม 4 อันเดอร์ สกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์ คว้าอันดับ 7
โปรแจน-วิชาณี มีชัย วัย 29 ปี ที่ลงเล่นรายการนี้เป็นครั้งที่ 5 โชว์ผลงานได้ดีตลอดทั้งสี่วัน โดยวันสุดท้าย “โปรแจน” มีโอกาสลุ้นแชมป์อยู่ในกลุ่มลีดเดอร์บอร์ด ทำ 4 เบอร์ดี้ที่หลุม 1 ,2 และ 8 และหลุม 11 แต่มาเสียโบกี้ที่หลุม 13 และ 16 จบวันสุดท้ายที่ 2 อันเดอร์ สกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์ 274 คว้าอันดับ 8 ร่วมกับ ลิเลีย วู จากสหรัฐฯ และเมาเด-ไอมี เลอ บลองค์ จากแคนาดา “โปรแจน” คว้าอันดับ 8 ร่วม ซึ่งถือเป็นอันดับที่ดี่ที่สุดของเธอในการลงเล่นรายการนี้ทั้งหมด 5 ครั้ง รับเงินรางวัล44,612 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.65 ล้านบาท
“โปรแจน” ให้สัมภาษณ์หลังจบทัวร์นาเมนต์ว่า “รู้สึกดีมาก ๆ กับผลงานที่ทำได้ ต้องขอขอบคุณ ทรัสต์กอล์ฟที่เชิญแจนมาร่วมแข่งขันรายการนี้ ให้โอกาสแจนได้แสดงฝีมือ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เนื่องจากแจนมาแบบไม่ได้คาดหวังอะไรและมีความมั่นใจมากในการตีแต่ละช็อตของตัวเอง ยิ่งตีดีก็ยิ่งมั่นใจพอยิ่งมั่นใจก็ยิ่งเล่นดี หวังว่าจะทำได้ดีในการแข่งขันสัปดาห์หน้า สุดท้ายนี้ แจนขอขอบคุณทรัสต์กอล์ฟมาก ๆ ที่ให้โอกาสแจน และนักกอล์ฟไทยทุกคนได้มีโอกาสมาเล่นที่นี่ ขอบคุณค่ะ”
ส่วนอันดับ 11 ร่วมของรายการได้แก่ อินจี ชอน, ฮเยจิน ชเว และนาริน อา สามโปรสาวเกาหลีใต้ สกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์
โปรโม-โมรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟไทยผลงานดีที่สุดในวันสุดท้าย เก็บเพิ่ม 5 อันเดอร์พาร์ จากการทำ 6 เบอร์ดี้ เสีย1 โบกี้ที่หลุม 15 สกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 279 จบอันดับ 24 ร่วม พอใจกับผลงานตัวเองเผยว่า “วันนี้เล่นค่อนข้างดี เป็นวันที่สนุกกับเกม รู้สึกว่าตัวเองมุ่งมั่นมากขึ้น วันนี้โมไม่สนใจเรื่องของสกอร์หรือใด ๆ ทั้งสิ้น มีสมาธิกับเกมของตัวเอง พยายามตีให้อยู่ในแฟร์เวย์ให้มากที่สุดเพื่อเพิ่มโอกาสให้การพัตต์เบอร์ดี้ โมชอบเล่นที่ดันโดนัลด์ ลิงค์ส เพราะเป็นกอล์ฟคอร์สที่ดีและทันสมัย แม้จะเป็นสนามที่ตียาก เพราะแต่ละหลุมจะต้องใส่ใจสิ่งที่อยู่รอบกรีนด้วยและนั่นทำให้ยากและท้าทาย”
โปรพราว-ชเนตตี วรรณแสน นักกอล์ฟรับเชิญของรายการวัย 18 ปี วันสุดท้ายเก็บเพิ่ม 1 อันเดอร์ จากผลงาน 4 เบอร์ดี้ เสีย 3 โบกี้ สกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 279 จบอันดับ 24 ร่วม
โปรเหมียว-แพตตี้ ปภังกร ธวัชธนกิจ แชมป์เมเจอร์ เชฟรอน แชมเปี้ยนชิพ 2021 เก็บเพิ่ม 1 อันเดอร์ ในวันสุดท้าย สกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ จบอันดับ 29 ร่วม
โปรจูเนียร์-จัสมิน สุวัณณะปุระ ดีกรี 2 แแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ วันสุดท้ายตีเกิน 1 โอเวอร์ สกอร์สี่วัน 7อันเดอร์พาร์ คว้าอันดับ 31 ร่วม
สายป่าน-ปัณณรัตน์ ธนพลบุญรัศมิ์ วันสุดท้ายตีเกิน 1 โอเวอร์ สกอร์รวม 3 อันเดอร์พาร์ คว้าอันดับ 48ร่วม
โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล แชมป์ปี 2018 วันสุดท้ายเก็บเพิ่ม 2 อันเดอร์ สกอร์รวม 1 อันเดอร์พาร์ จบอันดับ 62 ร่วม
โปรแหวน-พรอนงค์ เพชรล้ำ เก็บเพิ่ม 1 อันเดอร์ รวมสี่วันสกอร์ อีเวนพาร์ คว้าอันดับ 65 ร่วม และโปรเปียโน-อาภิชญา ยุบล สกอร์รวมสี่วัน 7 โอเวอร์พาร์ จบอันดับ 74 ร่วม
ส่วนผลงานของนักกอล์ฟระดับโลกที่น่าสนใจ ไรแอนน์ โอทูล แชมป์เก่าจากสหรัฐฯ วันสุดท้ายตีลบ 7 สกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ คว้าอันดับ 15 ร่วม มินจี ลี มือสองของโลกจากออสเตรเลีย จบอันดับ 18 ร่วม สกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ ขณะที่เจนนิเฟอร์ คุปโช แชมป์เมเจอร์ รายการเชฟรอน แชมเปี้ยนชิพ 2022 จากสหรัฐ สกอร์รวม 6 อันเดอรพาร์ คว้าอันดับ 34 ร่วม
ส่วนจินยอง โค มือหนึ่งของโลกจากเกาหลีใต้ สกอร์รวมสี่วัน 3 โอเวอร์พาร์ได้อันดับ 71 ร่วม
ดร.ปริญ สิงหนาท ผู้ก่อตั้งทรัสต์กอล์ฟ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขันได้กล่าวแสดงความยินดีกับแชมป์และชื่นชมผลงานนักกอล์ฟไทยว่า “ทรัสต์กอล์ฟขอแสดงความยินดีกับ อายากะ ฟูรุเอะ ที่คว้าแชมป์แอลพีจีเอแรกได้สำเร็จจากผลงานการเล่นที่ยอดเยี่ยมในวันสุดท้าย และขอชื่นชมผลงานของนักกอล์ฟไทยที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอด 4 วันการแข่งขัน รวมทั้งขอบคุณนักกอล์ฟทุกคนที่ทำให้การแข่งขันสนุก เข้มเข้น ทรัสต์กอล์ฟจะยังคงมุ่งมั่นในการสร้างโอกาสและพัฒนาวงการกีฬากอล์ฟไทยอย่างไม่หยุดยั้ง รวมทั้งสร้างสรรค์หลักสูตรการฝึกอบรมที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพเพื่อช่วยในการฝึกฝนและพัฒนาศักยภาพของนักกอล์ฟ นอกจากนี้ทรัสต์กอล์ฟ จะยังคงให้การสนับสนุนทัวร์นาเมนต์ระดับโลกเพื่อเป็นการสร้างเวทีให้นักกอล์ฟไทยที่มีความสามารถได้เล่นในรายการระดับโลกภายในระยะเวลาที่สั้น เป็นการช่วยพัฒนาศักยภาพและยกระดับมาตรฐานนักกอล์ฟไทยสู่ระดับสากล”
ตลอดการแข่งขันทั้ง 4 วัน ที่ดันโดนัลด์ ลิงค์ส นอกจากแฟนกอล์ฟจะได้ชมการแข่งขันอันดุเดือดในสนามแล้ว ยังมี “Fan Zone” ที่แฟนกอล์ฟสามารถร่วมสนุกกับกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นและท้าทายมากมาย อาทิ เครื่อง “ROBOGOLFPRO” หุ่นยนต์สอนวงสวิงระดับโปร ที่เป็นเครื่องมือสุดทันสมัยเสมือนครูฝึกวงสวิงส่วนตัว ที่ถูกออกแบบแก่ผู้เรียนที่ไม่เคยผ่านการฝึกตีกอล์ฟไปจนถึงนักกอล์ฟอาชีพ ได้เรียนรู้เทคนิคระดับมืออาชีพที่ใช้เวลาฝึกฝนระยะเวลาเป็นปีได้ในเวลาสั้นๆ โดยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี้มีอยู่ที่ทรัสต์กอล์ฟ ประเทศไทยด้วยเช่นกัน
ภายในสนามยังจัด “Thai Food Truck” เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารให้กับประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นเมืองแห่งสตรีทฟู้ดที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักกอล์ฟ โดยเฉพาะเมนูยอดฮิต อย่าง ผัดไท และพะแนงหมู ที่ใครได้ลิ้มลองแล้วต้องติดใจ
สำหรับการแข่งขันปีหน้า ดันโดนัลด์ ลิงค์ส ได้รับการประกาศให้เป็นสนามที่จะใช้จัดการแข่งขัน “ทรัสต์กอล์ฟ วีเมนส์ สก็อตติช โอเพ่น 2023” หลังจากประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม มุ่งสานต่อความสำเร็จในการเป็นสังเวียนของการแข่งขันรายการทัวร์ผสมของแอลพีจีเอ ทัวร์ และ เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ ที่อายร์เชียร์ ในสกอตแลนด์ ในสัปดาห์นี้
ดร.ปริญ สิงหนาท กล่าวยืนยันว่า “ทรัสต์กอล์ฟ ร่วมกับ แอลพีจีเอ ทัวร์, เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์, วิสิทสกอตแลนด์ (VisitScotland) และ ไอเอ็มจี มีความยินดีที่จะประกาศว่า การแข่งขัน “ทรัสต์กอล์ฟ สก็อตติช โอเพ่น 2023” จะแข่งขันที่ ดันโดนัลด์ ลิงค์ส ซึ่งสนามแห่งนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นสนามระดับเวิลด์คลาสในการแข่งขันสัปดาห์นี้ และได้ผลตอบรับจากนักกอล์ฟในเชิงบวกอย่างท่วมท้น เราตั้งตารอที่จะได้เห็นการแข่งขันที่ตื่นตาตื่นใจอีกครั้ง ณ ดันโดนัลด์ ลิงค์ส ในปีหน้า”