อีเอสอาร์ กรุ๊ป (“อีเอสอาร์” หรือ “บริษัท” โดยจะเรียกว่า “กลุ่มบริษัท” รวมถึงบริษัทย่อย ชื่อย่อหรือรหัสหลักทรัพย์ คือ HKSE 1821) ผู้นำด้านการพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ New Economy ซึ่งรวมถึงอาคารคลังสินค้าและโรงงาน ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โครงการอีเอสอาร์ เอเซีย สุวรรณภูมิ มีพื้นที่ให้เช่าทั้งหมด 363,000 ตารางเมตร โดยเฟส 1 มีผู้เช่าเต็มเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้เช่าทั้ง 4 รายเป็นบริษัทข้ามชาติจากญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา
ปัจจุบัน อีเอสอาร์ เอเซีย สุวรรณภูมิเป็นที่ตั้งของบริษัท เอ็นเอกซ์ โชจิ (ไทยแลนด์) ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าแก่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่, บริษัท นิชิโยริ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์เยื่อกระดาษขึ้นรูประดับพรีเมียมสำหรับสินค้าลักชัวรี และบริษัท แอมฟีนอล คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตโมดูลอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยม นอกจากนี้ อีเอสอาร์ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานผลิตที่ออกแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของบริษัท โคบายาชิ เภสัชกรรม การผลิต (ประเทศไทย) จำกัด โดยคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2568
โครงการอีเอสอาร์ เอเซีย สุวรรณภูมิ ให้บริการพื้นที่เช่าทั้งในรูปแบบอาคารสำเร็จรูปพร้อมใช้ (Ready-Built) เพื่อให้ผู้เช่าสามารถเริ่มดำเนินธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว และรูปแบบอาคารสร้างตามสั่ง (Built-to-Suit) เพื่อตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะของลูกค้า ภายใต้ปรัชญาการออกแบบที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง
ผู้ประกอบการทั้ง 4 รายดังกล่าวข้างต้น จะมีการจ้างงานประมาณ 1,000 ตำแหน่ง นับรวมทั้งงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการสินทรัพย์และบริการเสริมในส่วนของอีเอสอาร์เอง และงานที่ลูกค้าของอีเอสอาร์เป็นผู้สร้างในระหว่างการดำเนินธุรกิจ
อีเอสอาร์ให้ความสำคัญกับการออกแบบอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยติดตั้งแผ่นหลังคาโปร่งแสงเพื่อนำแสงธรรมชาติสู่ภายในอาคารช่วงกลางวัน ช่วยประหยัดพลังงาน และได้มีการออกแบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งรถบรรทุกและรถส่วนบุคคล นอกจากนี้ อีเอสอาร์กำลังดำเนินงานเพื่อติดตั้งหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์บนอาคาร อีกทั้ง ยังมีแผนจะเริ่มทดลองใช้โคมไฟถนนพลังงานแสงอาทิตย์ภายในโครงการอีเอสอาร์ เอเซีย สุวรรณภูมิเพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการใช้งานโคมไฟดังกล่าวในพื้นที่ขนาดใหญ่มากขึ้นในอนาคต ที่สำคัญ อีเอสอาร์ได้บูรณาการฟีเจอร์การใช้งานที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อส่งเสริมแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจตามหลักการทางเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว (BCG) ของประเทศไทย
นายจัยกุหม่า กัมเลช เมียปุริ ผู้บริหารสูงสุดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของอีเอสอาร์ กรุ๊ป กล่าวว่า “การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพถือเป็นวิธีที่อีเอสอาร์ใช้ในการส่งเสริมศักยภาพด้านการเติบโตของประเทศ และดึงดูดเม็ดเงินลงทุนซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น การลงทุนระยะยาวของเราในประเทศไทย ซึ่งมีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ย่อมส่งผลให้ไทยมีโครงสร้างพื้นฐานด้านห่วงโซ่อุปทานเพิ่มมากขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นจากลูกค้าของอีเอสอาร์ ซึ่งมีทั้งผู้ประกอบการในประเทศและบริษัทข้ามชาติ ผู้ประกอบการเหล่านี้มิเพียงมองหาพื้นที่อุตสาหกรรมที่ใช่ หากแต่ยังมองหาโลจิสติกส์คุณภาพสูงเกรดเอมารองรับการประกอบการด้วย ส่วนพันธมิตรผู้ร่วมลงทุนของเรานั้นจะได้ประโยชน์จากโซลูชั่นการลงทุนแบบปิดและบูรณาการแบบสมบูรณ์ที่เราใช้กับเครือข่ายการดำเนินงานทั้งหมด ส่งผลให้พันธมิตรของเราเข้าถึงตลาดภูมิภาคได้ในวงกว้าง”
ประเทศไทยเป็นส่วนสำคัญของแผนสร้างการเติบโตทางธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของอีเอสอาร์ โดยแผนนี้เน้นคว้าโอกาสที่จะได้รับจากการเติบโตของภูมิภาคที่ถือได้ว่ามีอัตราเติบโตรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งนี้ อีเอสอาร์มีพื้นที่รวมกว่า 3 ล้านตารางเมตรจากอสังหาริมทรัพย์ในภาคอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงถือเป็นผู้นำแพลทฟอร์มด้านการบริหารและพัฒนาสินทรัพย์ในภูมิภาค ครอบคลุมทั้งไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นตลาดสำคัญในการเติบโตด้วย
นายสยาม ทองกระบิล ผู้บริหารสูงสุดประเทศไทย ของ อีเอสอาร์ กรุ๊ป เสริมว่า “เราขอขอบคุณเอ็นเอกซ์ โชจิ, นิชิโยริ, แอมฟีนอล คอร์ปอเรชั่น และโคบายาชิ เภสัชกรรม การผลิต ที่ก้าวเข้ามาเป็นพันธมิตรและมีวิสัยทัศน์ที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศไทยไปด้วยกัน อีเอสอาร์ เอเซีย สุวรรณภูมิถือเป็นโครงการแรกที่เราพัฒนาในประเทศไทย โครงการนี้จึงสร้างโอกาสให้เราได้แสดงให้ประเทศไทยเห็นว่าเรามีวิธีการลงทุน ดำเนินงานและทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียอย่างไร จุดเด่นที่ทำให้เราแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น รวมถึงดูแลนักลงทุนและลูกค้าได้ดีกว่า คือแนวทางการดำเนินงานแบบองค์รวมโดยเรามอบหมายให้ทีมผู้เชี่ยวชาญดูแลการพัฒนาโครงการ บริหารจัดการเงินทุนตลอดจนวงจรชีวิตสินทรัพย์ทั้งหมด”
ปัจจุบัน อีเอสอาร์อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าอีกหลายราย ที่มีความสนใจจะเช่าพื้นที่ในเฟสต่อไปของอีเอสอาร์ เอเซีย สุวรรณภูมิ โดยการพัฒนาพื้นที่โครงการจะคำนึงถึงความต้องการและข้อกำหนดในการใช้พื้นที่ของลูกค้า
สินทรัพย์ภายใต้การบริหารงานของอีเอสอาร์ในประเทศไทยมีมูลค่ารวมเกือบ 215 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีพื้นที่รวมราว 130,000 ตารางเมตร (นับรวมพื้นที่ทั้งในโครงการที่เสร็จสมบูรณ์แล้วและยังพัฒนาอยู่) จาก 3 โครงการ ได้แก่ “อีเอสอาร์ เอเซีย สุวรรณภูมิ” “อีเอสอาร์ เอเซีย แหลมฉบัง” “อีเอสอาร์ เอเซีย บ่อวิน” และ “อีเอสอาร์ เอเซีย วังน้อย” ทั้งนี้ อีเอสอาร์มีเป้าหมายที่จะขยายพื้นที่ด้านโลจิสติกส์และสินทรัพย์อุตสาหกรรมในประเทศไทยจนครอบคลุมราว 2 ล้านตารางเมตรภายใน 5 ปี โดยจะคิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวมราว 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามเป้าหมายขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดในหลากหลายประเทศมากขึ้น
เกี่ยวกับ ESR
ESR เป็นผู้บริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายใต้คอนเซ็ปต์ New Economy และเป็นบริษัทจัดการการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของโลก ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การจัดการรวมกว่า 150,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แพลตฟอร์มการพัฒนาและบริหารการลงทุนของเราอยู่ในตลาดสำคัญในภูมิภาคนี้ รวมถึงจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ อินเดีย นิวซีแลนด์ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งนับเป็น 95% ของ GDP ของภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ บริษัทยังได้เริ่มขยายธุรกิจไปในยุโรปและสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ESR ยังให้บริการโซลูชันและโอกาสการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจเศรษฐกิจใหม่ที่หลากหลายผ่านธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล ที่เปิดโอกาสให้พาร์ทเนอร์ด้านการลงทุนและลูกค้าสามารถสร้างผลตอบแทนจากเทรนด์การเติบโตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคได้อีกด้วย อีเอสอาร์เป็นผู้จัดตั้งและบริหารกองทุน REIT ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารงานอยู่ประมาณ 45,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ พันธกิจที่สำคัญในการดำเนินงานของเราคือการสร้างโซลูชันด้านพื้นที่และการลงทุนสำหรับอนาคตที่ยั่งยืน และยังเป็นแรงขับเคลื่อนให้เราบริหารแบบเน้นการสร้างผลลัพธ์และความยั่งยืน โดยพิจารณาถึงสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักของธุรกิจเราอยู่เสมอ อีเอสอาร์ได้จดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและเป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ที่อยู่ใน FTSE Global Equity Index Series (Large Cap), Hang Seng Composite Index และ MSCI Hong Kong Index
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อีเอสอาร์ กรุณาไปที่ www.esr.com