สัมผัสประสบการณ์แกลมปิ้งรูปแบบใหม่กับโฟร์ซีซั่นส์ เต็นท์แคมป์ สามเหลี่ยมทองคำ

โฟร์ซีซั่นส์ขอเชิญชวนแขกผู้เข้าพักมาสร้างประสบการณ์อันน่าจดจำไม่ว่าจะเป็นการออกไปเรียนรู้วิธีหาปลาแบบดั้งเดิมกับคนท้องถิ่นหรือการปิกนิกริมแม่น้ำรวกไปจนถึงการปั่นจักรยานท่องเที่ยวชมวิวทิวเขา

สามเหลี่ยมทองคำ ดินแดนอันเลื่องชื่อและเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่แปลกใหม่พร้อมเส้นทางผจญภัยที่น่าค้นหาในป่าไผ่อันเขียวขจีและวัฒนธรรมอันหลากหลายที่ไม่ใช่เพียงประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงดินแดนเพื่อนบ้านคือประเทศพม่าและลาว ซึ่งมีเพียงแม่น้ำรวกที่กั้นกลางเพื่อแบ่งแยกพรมแดนออกเป็นสองฟากฝั่ง และการพักผ่อนแบบแกลมปิ้งบนที่พักที่ตั้งอยู่เนินเขา ณ โฟร์ซีซั่นส์ เต็นท์แคมป์ สามเหลี่ยมทองคำ 

นั้นคือการได้สัมผัสกับประสบการณ์เหนือระดับไปกับกิจกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจซึ่งถูกรวบรวมไว้โดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่แคมป์ของเรา “เรามีแพ็คเกจเพื่อให้แขกได้สัมผัสกับการพักผ่อนและผจญภัยไปกับเรา โดยมีตั้งแต่ สองคืน สามคืนและสี่คืนซึ่งเป็นแพ็คเกจที่รวมสิทธิประโยชน์ทุกอย่างไว้แล้ว ซึ่งเปิดโอกาสให้แขกได้สัมผัสและซึมซับกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างแท้จริง” โทเบียส เอ็มเมอร์ ผู้จัดการแคมป์ประจำโฟร์ซีซั่นส์ เต็นท์แคมป์ กล่าว “ประสบการณ์ใหม่เหล่านี้เป็นการผสมผสานระหว่างการผจญภัยที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมที่หลากหลายและความผ่อนคลาย ซึ่งจะถูกออกแบบให้เข้ากับสไตล์การท่องเที่ยวของคุณ เพียงยืดเวลาการพักผ่อนกับเราให้นานขึ้นเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่มากขึ้น” ผู้จัดการแคมป์กล่าว

เรียนรู้การหาปลากับชาวประมงท้องถิ่น

วิธีการหาปลาตามลุ่มแม่น้ำโขงมีวิวัฒนาการมาอย่างยาวนานมากกว่าพันปี และการท่องเที่ยวครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้แขกทุกท่านได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่แท้จริงด้วยการทดลองหาปลาจาก ‘ไซดักปลา’ และ ‘ไซลั่นหรือไซกะต้ำไม้ไผ่’ ไปกับชาวประมงท้องถิ่น ในขณะที่ล่องเรือหางยาวไปตามลำน้ำแม่น้ำรวกนั้นก็จะได้เรียนรู้เรื่องราวและวิถีการดำรงชีวิตของคนพื้นถิ่นแห่งนี้ไปพร้อมๆกัน

ปั่นจักรยานท่องเที่ยวชมวิวทิวเขา

“ความสงบของหมู่บ้านต่างๆ ในบริเวณสามเหลี่ยมทองคำนี้ถือว่าไม่เป็นสองรองใคร โดยเฉพาะในบริเวณเชียงแสนที่ที่แคมป์ของเราตั้งอยู่” โทเบียสกล่าว และที่นี่ก็คือสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบการปั่นจักรยาน โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจะปั่นนำทางไปสู่เส้นทางลาดยางตามเนินเขาซึ่งมีความความลาดชันเป็นบางแห่งเพื่อความท้าทายระหว่างทาง โดยเส้นทางนี้จะผ่านทุ่งนาข้าวเขียวขจี สวนสับปะรด สวนยางและป่าสัก “เราสามารถเห็นวิถีชีวิตของชาวนาที่กำลังปลูกข้าวซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันของเขา พร้อมชื่นชมวิวทิวเขาสุดตระการตาที่อยู่ไกลออกไป และหยุดพักผ่อนเอนกายสักพักที่บึงบัวหลวงก่อนเดินทางกลับแคมป์ของเรา” เขากล่าวเสริม

• 

• 

• 

ปิกนิกริมแม่น้ำรวก

เพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารสไตล์ปิกนิกในป่าไผ่ที่สมบูรณ์ริมแม่น้ำรวกหรือในสวนป่าเขียวขจี “เชฟไพศาล ต๋อเพชร์ของเรา สามารถจัดเตรียมอาหารว่างทานเล่นเมนูไทยหรือเมนูตะวันตกที่แสนอร่อยให้คุณได้อิ่มเอมและดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสงบร่มเย็นริมแม่น้ำรวก” เขาแนะนำ

ดื่มด่ำไปกับค็อกเทลในป่าไผ่และมื้อค่ำริมแม่น้ำรวก

ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวริมแม่น้ำ แขกทุกท่านสามารถเพลิดเพลินไปกับค็อกเทลและอาหารค่ำสไตล์บาร์บีคิว เพื่อค่ำคืนที่น่าจดจำไปกับคนที่คุณรัก เพียงเดินทางไปสู่ “จังเกิ้ล เพนนินซูลา” ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณรีสอร์ทด้วยรถแลนด์โรเวอร์สุดคลาสสิค พร้อมบรรยากาศริมแม่น้ำรวกซึ่งมีเพียงสายน้ำขั้นกลางดินแดนพม่า การได้ชื่นชมพระอาทิตย์อัสดงที่นั่นจะทำให้ค่ำคืนพิเศษของคุณสมบูรณ์แบบ

บริการเหนือระดับแบบไร้การสัมผัส

“ค้นพบประสบการณ์ใหม่ที่เติมเต็มสไตล์การเดินทางของคุณ แม้ว่าจะเป็นวิถีใหม่ที่แตกต่างออกไป แต่ยังคงมอบความรู้สึกเช่นเดิม ด้วยแอพพลิเคชั่น Four Seasons App and Chat ที่ได้รับรางวัลการันตี โดยทีมงานที่ทุ่มเทและมุ่งมั่นที่จะมอบความสะดวกสบายและการดูแลเอาใจใส่ถึงรายละเอียดของแขกแต่ละบุคคลซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่เราได้รับความไว้วางใจจากแขกทั่วทุกมุมโลก” โทเบียสกล่าว “เราหวังว่าจะได้มีโอกาสต้อนรับทุกๆ ท่านด้วยการดูแลเอาใจใส่อย่างสูงสุด”