การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและยากที่จะควบคุม จำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละวันมีอัตราสูง นำมาสู่การประกาศปรับระดับพื้นที่ควบคุมเป็น 3 ระดับ ได้แก่ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม), พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) และพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) พร้อมประกาศใช้มาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่น การขอความร่วมมือทุกหน่วยงาน Work From Home อย่างน้อย 14 วัน พร้อมทั้งการควบคุมกิจกรรม เวลาเปิด-ปิดสถานที่ต่างๆ อย่างเข้มข้น
สถานการณ์ดังกล่าว นับเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ของการดำเนินธุรกิจของทุกภาคอุตสาหกรรม รวมถึงเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของผู้บริหารหญิงแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์อย่าง เพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
มุมมองของเพชรลดา เห็นว่า สถานการณ์ดังกล่าว กำลังนำพาทุกคนที่กำลังก้าวเข้าสู่ภาวะปกติใหม่ หรือ New Normal ย้อนกลับไปสู่ “ภาวะผิดปกติใหม่” หรือ New Abnormal อีกครั้ง คล้ายคลึงกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อช่วง ไตรมาส 2 ของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เพิ่งเกิดการระบาดระลอกใหม่
ภาวะผิดปกติดังกล่าว สร้างความผิดปกติต่อชีวิตของผู้บริโภคหลากหลายด้าน อาทิ Abnormal Travelling ปริมาณการเดินทางและความสามารถในการเดินทางผิดปกติ Abnormal Insecurity ความรู้สึกไม่มั่นคงปลอดภัยทั้งด้านสุขภาพและด้านเศรษฐกิจที่มากกว่าปกติ และส่วนที่กระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คือ Abnormal Credit ความน่าเชื่อถือของผู้บริโภคบางกลุ่มต่อสถาบันการเงินที่ลดลงอย่างผิดปกติ จากเดิมผู้บริโภคในบางเซ็กเตอร์ เช่น กลุ่มเซ็กเตอร์ท่องเที่ยว จากเดิมที่เคยได้รับเครดิตที่ดีจากสถาบันการเงิน แต่ปัจจุบันอาจจะกลายเป็นกลุ่มที่แม้อยากกู้ซื้ออสังหาฯ แต่ก็อาจกู้ไม่ผ่านก็ได้
ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เองก็ต้องเผชิญกับความหลากหลายของ New Abnormal ได้แก่
1. Abnormal Price War สงครามราคาที่รุนแรงกว่าปกติจากการแข่งขันชิงกำลังซื้อในช่วงที่เศรษฐกิจได้รับแรงกดดัน
2. Abnormal Trust Rate ระดับความไว้วางใจของผู้บริโภคต่อแบรนด์ที่ลดลงจากช่วงปกติ
3. Abnormal Growth Rate อัตราการเติบโตและความสามารถการเติบโตในหลายเซ็กเตอร์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยยะสำคัญ และอาจเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องไปอีกสักพักใหญ่
“ที่ผ่านมา ภาคอสังหาริมทรัพย์ต่างพยายามมองหาฟังก์ชันใหม่ๆ มาตอบโจทย์ New Normal เพื่อให้สอดคล้องพฤติกรรมผู้บริโภคในอนาคต แต่ในวันนี้ผู้ประกอบการมีโจทย์ที่ท้าทายและเร่งด่วนกว่ารออยู่ตรงหน้า นั่นคือการหาทางให้ New Abnormal ที่ย้อนกลับมาอยู่กับเราสั้นที่สุด ทั้งในภาคธุรกิจและกลุ่มผู้บริโภคให้รอดพ้นจากวิกฤตที่เกิดจากความผิดปกติครั้งนี้” เพชรลดา กล่าวย้ำ
เพชรลดา ประเมินว่า สถานการณ์ New Abnormal จะสั้นหรือยาวนั้น ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับภาครัฐว่าสามารถกระจายการฉีดวัคซีนว่าได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และมีประสิทธิภาพเพียงใด มีไทม์ไลน์ที่ชัดเจนให้กับทุกภาคส่วน ขณะที่อีกส่วนหนึ่งขึ้นกับภาคธุรกิจ ว่าจะสามารถปรับตัวและช่วยผู้บริโภคได้มากเพียงใด เพราะ Key Success ในเวลานี้ คือการปรับตัวอย่างรวดเร็วและการรอดไปด้วยกัน
สำหรับแนวทางของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ในการทลาย New Abnormal จะมีทั้งมาตรการเพื่อผู้บริโภคที่เป็นลูกบ้านเมเจอร์ฯ และมาตรการเพื่อผู้บริโภคที่ยังมีความสนใจซื้อโครงการ ซึ่งครอบคลุมทั้งในแง่การดูแลสุขภาพและความปลอดภัย รวมไปถึงการจัดหามาตรการที่เกี่ยวข้องกับการเงินและสินเชื่อให้กับลูกค้า โดยมีมาตรการบางส่วนที่เริ่มดำเนินการแล้ว เช่น การลดความเสี่ยงในการเดินทางไปโรงพยาบาลให้กับลูกบ้าน ผ่านการจับมือกับ Doctor Anywhereบริษัทเทคโนโลยีด้านสุขภาพ (HealthTech) จากสิงคโปร์ ในการอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคสามารถปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพต่างๆ โดยเฉพาะความเสี่ยงด้านโควิด-19 จากแพทย์เครือข่ายโรงพยาบาลพันธมิตรชั้นนำ ผ่านระบบ Online Video Consultation พร้อมมอบส่วนลดสูงสุด 20% และเปิดให้ลูกบ้านแต่ละโครงการลงทะเบียนขอรับบริการตรวจโควิด-19 ถึงที่คอนโดในราคาพิเศษ สะดวก ปลอดภัย ไม่เสี่ยง รวมถึงการจับมือร่วมกับโรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ (ซอยศูนย์วิจัย) มอบส่วนลดพิเศษสูงสุด 62% สำหรับแพ็กเกจตรวจสุขภาพตามช่วงอายุทั้งแพ็กเกจ Advanced Check-up และ Executive Male & Female Check up นอกจากนี้ยังร่วมกับ BDMS Wellness Clinic ซึ่งเป็นคลินิกในเครือฯ โรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งเป็นศูนย์การดูแลสุขภาพที่เน้นวิธีการป้องกันแทนที่การรักษา มอบส่วนลดพิเศษสูงสุด 52% สำหรับโปรแกรมการตรวจวิเคราะห์ต่างๆ อย่างครบวงจร อาทิ Regenerative Wellness Clinic, Fertility and Woman Wellness Clinic ซึ่งเอกสิทธิ์ทั้งหมดนี้เป็นสิทธิพิเศษสำหรับลูกบ้านเมเจอร์ฯ เท่านั้น
ขณะเดียวกัน ได้จัดเตรียมให้มี Major Private Tour สร้างความอุ่นใจแบบ Worry Free เมื่อเยี่ยมชมโครงการพร้อมอยู่ 9 โครงการโดยลงทะเบียนนัดหมายล่วงหน้า เพื่อเลือกชมแบบ Major Private Viewing เยี่ยมชมโครงการแบบเป็นส่วนตัว ไม่มีลูกค้าท่านอื่นเข้าชมในเวลาเดียวกัน หรือ Major Private Virtual Tour ชมโครงการแบบเรียลไทม์ผ่าน VDO Call พร้อมรับสิทธิพิเศษสูงสุด 200,000 บาท เมื่อซื้อโครงการเมเจอร์ฯ ราคาเริ่มต้นเพียง 2.99 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีการจัดเตรียมมาตรการที่เกี่ยวข้องกับด้านการเงินและสินเชื่อ “Major Home Financial Solutions” ที่อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรและสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณามาตรการที่เหมาะสมและตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุปัน คาดว่าน่าจะได้เห็นมาตรการในช่วงกลางเดือน พ.ค.นี้
ทั้งนี้ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จะยังคงเดินหน้าในการขยายธุรกิจของบริษัทเข้าสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ๆ อย่างธุรกิจ HealthScape และ Techscape เพื่อกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ และก้าวเข้าสู่ธุรกิจที่จะสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในระยะยาว หลังจากทุกคนเริ่มก้าวผ่าน New Abnormal และก้าวเข้าสู่ New Normal กันอีกครั้ง
สำหรับ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซูรี มีธุรกิจหลักในเครืออยู่ 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย 2.กลุ่มโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ เช่น ออฟฟิศและโรงแรม 3.กลุ่มธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ มีวิสัยทัศน์ในการเติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างโครงการระดับลักซูรีที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
Comments are closed.